“ดร.เชษฐา” ชี้ลงนามข้อตกลงไทย-กัมพูชา คุ้มค่า ส่งเสริมภาพลักษณ์รัฐสันติภาพ สะท้อนยุทธศาสตร์การทูตเปลี่ยนรับเป็นรุก

“ผศ.ดร.เชษฐา” ชี้ ไทย ลงนามข้อตกลงไทย-กัมพูชา คุ้มค่า ได้เปรียบการทูต-ส่งเสริมภาพลักษณ์รัฐสันติภาพ ใช้นานาชาติบีบกัมพูชา สะท้อนยุทธศาสตร์เปลี่ยนรับ เป็นรุก

“ดร.เชษฐา” ชี้ลงนามข้อตกลงไทย-กัมพูชา คุ้มค่า ส่งเสริมภาพลักษณ์รัฐสันติภาพ สะท้อนยุทธศาสตร์การทูตเปลี่ยนรับเป็นรุก – Top News รายงาน

 

ดร.เชษฐา

 

 

ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น อาจารย์ประจำภาควิชาการบริหารและจัดการการเมือง วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีไทยลงนาม “คำแถลงร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและนายกรัฐมนตรีไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย” (Joint Declaration by the Prime Minister of the Kingdom of Cambodia and the Prime Minister of the Kingdom of Thailand on the outcomes of their meeting in Kuala Lumpur, Malaysia) ว่า

เอกสารฉบับนี้สะท้อนลักษณะสำคัญของ “การบริหารความมั่นคงแบบบูรณาการ” (Integrated Security Administration)

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยมีหลายประเทศและกลไกระดับภูมิภาคร่วมเป็นพยาน ทั้งอาเซียนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้การยุติความขัดแย้งระหว่างสองประเทศมีความชอบธรรมมากขึ้น และเพิ่มแนวโน้มให้เกิดความยั่งยืน เพราะเมื่อมีหลายฝ่ายร่วมรับรอง การละเมิดข้อตกลงย่อมเกิดขึ้นได้ยากขึ้น

ผศ.ดร.เชษฐา ระบุว่า การลงนามครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาลไทยในการใช้ “สันติวิธี” เป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขความขัดแย้ง ยืนยันว่าไทยยึดหลักการเจรจาแทนการใช้กำลัง เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนจากจุดเสี่ยงความขัดแย้ง ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก

 

ทั้งนี้ เพื่อให้คำแถลงร่วมเกิดผลในทางบวกอย่างต่อเนื่อง ขอเสนอให้รัฐบาลไทยเดินหน้าสานต่อกลไกคณะกรรมการเขตแดน (AOT) และคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับสร้างกลไกสื่อสารสาธารณะเชิงรุก เพื่อป้องกันข่าวปลอมหรือการบิดเบือนที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

“คำแถลงฉบับนี้ทำให้ไทยได้รับทั้ง ‘ภาพลักษณ์ทางการทูต’ และ ‘ความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์’ ในฐานะรัฐสันติภาพ (Peaceful State) ที่มีอิทธิพลในอาเซียน ใช้กลไกระดับภูมิภาคเพื่อถ่วงดุลมหาอำนาจ และลดแรงกดดันชายแดน โดยไม่กระทบอธิปไตยของประเทศ” ผศ.ดร.เชษฐา กล่าว พร้อมระบุว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านจาก การทูตเชิงป้องกัน ไปสู่ การบริหารความมั่นคงเชิงรุก ที่ไทยสามารถใช้เป็นต้นแบบกำหนดนโยบายต่างประเทศในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) Airbus เปิด 'สายการประกอบขั้นสุดท้าย' แห่งใหม่ในจีน
สปน. ประชุมเตรียมความพร้อม จัดงานพระราชพิธีพระบรมศพ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" อย่างสมพระเกียรติ
นักศึกษาพยาบาลน้ำใจงาม ช่วยผู้บาดเจ็บโดนควายขวิด
จังซีลอนร่วมพิธีแห่พระรอบเมืองภูเก็ต ประเพณีถือศีลกินผัก 2568
คณะแพทยศาสตร์ มช. รับมอบ “รถขนส่งโลหิตและอุปกรณ์ออกหน่วยฯ” ยกระดับภารกิจบริการโลหิตของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
พสกนิกรชาว อ.ท่าศาลาถวายสรงน้ำพระบรมศพ พระพันปีหลวง ด้วยความอาลัยยิ่ง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​