“ซิน เคอ หยวน” เปิดไทม์ไลน์ผลตรวจมาตรฐานเหล็ก ยัน สมอ.ถอนอายัดไม่ผิดปกติ แค่คาใจล่าช้าไป 5 เดือน

“ซิน เคอ หยวน” เปิดไทม์ไลน์ผลตรวจมาตรฐานเหล็ก ยัน สมอ.ถอนอายัดไม่ผิดปกติ แค่คาใจล่าช้าไป 5 เดือน

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ตุลาม 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ ได้เปิดเผยเอกสารว่าทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ถอนอายัดผลิตภัณฑ์เหล็กของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ที่มีประเด็นสำคัญคือเหล็กใหญ่เบอร์ 32 เป็นเหล็กสร้างตึกสูง ว่าเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน

1. ลำดับเวลาชัดเจน: การถอนอายัดเกิดขึ้นก่อนผมรับตำแหน่ง
ประการแรกที่ต้องเรียนย้ำและทำความเข้าใจอย่างชัดเจน คือ การถอนอายัดเหล็กบางส่วนได้เกิดขึ้นในห้วงเวลาของรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ผมยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการ วันที่มีการถอนอายัดส่วนแรก: การดำเนินการคืนผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน (กองแรก 16,950 เส้น ) มีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568 วันเข้ารับตำแหน่งของผม: ผมได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568 และเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568 ดังนั้น การตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ ก่อนวันที่ 19 กันยายน 2568 จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม ผมจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการในเรื่องนี้แต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2.กรณีนี้คือ “เหล็กกรณีไฟไหม้” ไม่ใช่ “เหล็กกรณีตึกถล่ม” ขอเน้นย้ำว่า สาเหตุการอายัดเหล็กทั้งหมดของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด สืบเนื่องจาก เกิดเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงาน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งมีการเข้าเก็บตัวอย่างตรวจสอบในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กรณีนี้จึงไม่ใช่ “เหล็กจากเหตุการณ์ตึกถล่ม” ตามที่มีความสับสนในสื่อ

ข้อเท็จจริงเรื่องการถอนอายัดตามข้อมูล สมอ. กองที่ยังอายัด/ดำเนินคดี (ผลตก): สมอ. ได้อายัดผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นไว้ จำนวน 2,690 เส้น (อายัดเมื่อ 9 มกราคม 2568 ) เนื่องจากผลการตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งในส่วนประกอบทางเคมี (ธาตุโบรอนเกิน) และส่วนสูงของบั้ง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย

กองที่ถอนอายัด (ผลผ่าน): สมอ. ได้ดำเนินการคืนผลิตภัณฑ์เหล็กข้ออ้อยที่ผ่านการตรวจสอบรวมทั้งสิ้น 41,635 เส้น (อายัดเมื่อ 9 มกราคม 2568) ซึ่งการคืนผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ครั้ง คือ 16,950 เส้น (อนุมัติถอนอายัด 12 ก.ย. 2568) และ 24,685 เส้น (อนุมัติถอนอายัด 30 ก.ย. 2568) เนื่องจากผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่เก็บไป เป็นไปตามมาตรฐาน

3. ยืนยันความโปร่งใส หลักการให้ความเป็นธรรม และการตรวจสอบเพิ่มเติม
ผมขอเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการมั่นใจว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การกำกับดูแลของผม จะดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใสและยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด และ “ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้ประกอบการ หากผลิตภัณฑ์นั้นถูกต้องตามมาตรฐาน”
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างสมบูรณ์ และเพื่อความมั่นใจสูงสุดของประชาชน จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

ล่าสุดนายเขมพัสตร์ กิตติภัคดีกุล ผู้จัดการบริษัทซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ​เปิดเผยกรณีสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ถอนอายัดเหล็กข้ออ้อย 41,635 เส้น มูลค่า 40 ล้านบาท ซึ่ง สมอ.อายัดไว้ตรวจสอบว่าได้มาตรฐานหรือไม่เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงาน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2567 โดยหน่วยงานที่ตรวจสอบคือ สถาบันเหล็กกล้า และ สมอ.ทราบผลตรวจว่าเหล็กได้มาตรฐานเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ซึ่งขณะนัันนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ ปัญหาคือทำไม สมอ.จึงไม่ถอนอายัดตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เพิ่งมาถอนอายัดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 ซึ่งล่าช้าไปถึง 5 เดือน

 

 

นายเขมพัสตร์ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดโรงงานเมื่อปี 2554 ถึง เหตุเพลิงไหม้ 18 ธันวาคม 2567 ซินเคอหยวนถูกตรวจสอบจากสมอ. EIA กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เคยพบว่าเหล็กของ ซินเคอหยวนไม่ได้มาตรฐาน หรือมีการเพิกถอน มอก.แต่อย่างใด การที่สมอ.มาตรวจและถอนอายัดหลังที่นายเอกนัฏ พ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะผลการตรวจว่าเหล็กได้มาตรฐานออกมาในสมัยที่นายเอกนัฏเป็นรัฐมนตรี แต่ที่ผิดปกติคือรู้ผลตรวจตั้งแต่ 24 เมษายน 2568 ทำไมจึงไม่มาตรวจถอนอายัด

 

นายเขมพัสตร์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการให้ข่าวว่า โรงงานผลิตเหล็กที่ใช้เตา IF (Induction Furnace) ซึ่งประเทศจีนไม่ให้ใช้จึงหนีมาเปิดโรงงานผลิตที่ประเทศไทย เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะเตา IF ผลิตได้รวดเร็ว ลดการขาดดุลไม่ต้องนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ผู้บริโภคในวงการก่อสร้างได้รับประโยชน์ เหล็กมีราคาถูกกว่า เหล็กที่ผลิตจากเตา EAF ซึ่งเป็นระบบเก่า โรงงานผลิตเหล็กเดิมในไทย ใช้เตา EAF มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าเหล็กที่ผลิตจากเตา IF ราคาเหล็กเดิมจึงแพงกว่า รัฐบาลส่งเสริมให้มีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ซิน เคอ หยวนจึงเข้ามาลงมาทุนตั้งแต่ปี 2554 ด้วยเงินหลายพันล้านบาท ได้รับการส่งเสริมจาก BOI นำเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ใช้กับเตา IF มาใช้ผลิตเหล็กส่งขายไปทั่วโลก มีคณะกรรมการควบคุมสิ่งแวดล้อม (EIA) คอยตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เหล็กสแตนเลสและเหล็กพิเศษส่วนใหญ่ ใช้เทคโนโลยีเตา IF (Induction Furnace) ในการผลิต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและการส่งเสริมจากรัฐบาลจีนด้วย

 

นายเขมพัสตร์ กล่าวว่า การให้ข่าวว่าตึกสตง.ถล่มเพราะเหล็กไม่ได้มาตรฐานของซินเคอหยวน โดยนำเหล็กที่ผ่านการใช้งานแล้วในซากตึกสตง.ไปส่งตรวจ ผู้ที่มีความรู้และเป็นนักบริหารมืออาชีพจะไม่ทำเยี่ยงนั้น เนื่องจากเหล็กที่ผ่านการใช้งานแล้วย่อมมีค่าความยืดหยุ่นแตกต่างจากเหล็กที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ส่วนสาเหตุตึกสตง.ถล่ม รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการสี่สถาบัน ที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรม ขึ้นมาสืบสวนหาสาเหตุ ซึ่งได้ข้อมูลไปในทางเดียวกันโดยพบว่า ปัญหาสาเหตุมาจากการออกแบบ และแรงเฉือน เหล็กไม่ใช่สาเหตุของตึกถล่ม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบจ.สงขลา “ลั่นกลอง” เปิดขบวนแห่องค์พระ งานเทศกาลกินเจหาดใหญ่ 2568
ยืนข้างเสี่ยเฮ้ง! หม่อมหลวงวันรัชดา หนุนเอาช้าง 2 เชือกกลับไทย ไม่ต้องสนกระแสต้าน
ศึก “แร่หายาก” สหรัฐ-จีน ในสมรภูมิอาเซียน โอกาสใหม่ของไทยผู้ผลิต Rare Earth อันดับ 6 ของโลก
ทรัมป์ถึงญี่ปุ่นเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ
"ผู้ว่าฯ จังหวัดสงขลา" นำข้าราชการ-พสกนิกร ร่วมถวายน้ำสรงพระบรมศพ
สื่อมาเลอ่านชื่อนายกฯไทยผิดเรียกเป็น”เศรษฐา ทวีสิน”

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​