“ฟีฟ่า” พงศภัค เหล่าภักดี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” หลังพลิกสถานการณ์จากการตามหลังถึง 6 สโตรก ก่อนระเบิดฟอร์มเก่งในวันสุดท้าย ทำสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รวมสี่วัน 15 อันเดอร์พาร์ 273 เท่ากับ ไทเซ นางาซากิ จากญี่ปุ่น และเฉือนชนะในการเพลย์ออฟหลุมที่สาม คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ 2 รายการใหญ่ “เดอะ มาสเตอร์ส” และ “ดิ โอเพ่น” ในปี 2026

ในวันสุดท้ายของการแข่งขันที่สนามเอมิเรตส์ กอล์ฟ คลับ พงศภัค ซึ่งออกสตาร์ตในกลุ่มสุดท้ายตามหลังผู้นำ ไทเซ นางาซากิ อยู่ 6 สโตรก และเล่นร่วมกับ รินทาโระ นากาโนะ จากญี่ปุ่น เริ่มต้นได้ดีด้วยการทำเบอร์ดี้ที่หลุม 1 แต่พลาดเสียโบกี้ที่หลุม 3 และ 8 ก่อนกลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงเก้าหลุมหลัง เก็บเบอร์ดี้ได้ที่หลุม 10, 13 และ 15 ขึ้นมานำร่วมกับ ไทเซ ที่แม้ทำเบอร์ดี้ในช่วงต้น แต่พลาดเสียหลายโบกี้ในช่วงกลางเกม


ไทเซ กลับมาทำเบอร์ดี้ที่หลุม 16 แซงขึ้นนำเดี่ยวอีกครั้ง ขณะที่ พงศภัค ตามหลังหนึ่งสโตรกในสองหลุมสุดท้าย ทั้งคู่ต่างทำเบอร์ดี้ที่หลุม 17 ก่อนที่หลุม 18 พงศภัค จะทำเบอร์ดี้ ส่วน ไทเซ ทำพาร์ ส่งผลให้ทั้งคู่มีสกอร์รวมเท่ากัน ต้องตัดสินด้วยการเพลย์ออฟ

การเพลย์ออฟเริ่มที่หลุม 18 พาร์ 5 ทั้งสองทำเบอร์ดี้ ต้องไปต่อที่หลุม 17 พาร์ 4 ซึ่งต่างก็ทำเบอร์ดี้อีกครั้ง ก่อนกลับมาแข่งที่หลุม 18 เป็นครั้งที่สอง พงศภัค ตีช็อตสองไปตกข้างกรีนเกือบลงน้ำ ส่วน ไทเซ ตีออนแต่พัตต์เบอร์ดี้ไม่ลง พงศภัค ชิพเข้าเหลือระยะพัตต์ราว 3 ฟุต และพัตต์ลงได้อย่างเฉียบขาด คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ

จากชัยชนะครั้งนี้ พงศภัค จะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันเมเจอร์ “เดอะ มาสเตอร์ส” ที่สนามออกัสตา เนชันแนล กอล์ฟ คลับ รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในเดือนเมษายน 2026 และ “ดิ โอเพ่น” ที่สนามรอยัล เบิร์กเดล ประเทศอังกฤษ ในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน รวมถึงสิทธิ์เข้าร่วม “ดิ อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” ในปีหน้า ขณะที่ ไทเซ นางาซากิ รองแชมป์ ได้สิทธิ์เข้าร่วมรอบคัดเลือกสุดท้าย (Final Qualifying) ของดิ โอเพ่น
พงศภัค กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “ผมตั้งใจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว วันนี้วางแผนกับแคดดี้ให้เล่นช็อตต่อช็อตไป และมาทำได้ดีในเก้าหลุมหลัง ดีใจมากที่ได้สิทธิ์ไปเล่นเมเจอร์ โดยเฉพาะเดอะ มาสเตอร์ส ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นไทย”

รินทาโระ นากาโนะ จากญี่ปุ่น ทำสกอร์วันสุดท้าย 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 คว้าอันดับสาม ส่วน แฮร์รี ทาคิส จากออสเตรเลีย จบอันดับสี่ที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276
ด้าน “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ทำ 1 อันเดอร์พาร์ 71 รวมสี่วัน 8 อันเดอร์พาร์ 280 จบอันดับ 11 ร่วม ขณะที่ผลงานนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ ได้แก่ ธนวินท์ ลี รวมอีเวนพาร์ 288 (อันดับ 26), ปรินทร์ สารสมุทร รวม 4 โอเวอร์พาร์ 292 (อันดับ 37), ชนชน โชคประจักษ์ชัด รวม 8 โอเวอร์พาร์ 296 (อันดับ 45 ร่วม) และ ลพัษภล ลิแบร์โต้ เอราช-โกเมซ รวม 10 โอเวอร์พาร์ 226 (อันดับ 48 ร่วม)
สำหรับการแข่งขัน “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นที่สนามเท อาราย ลิงก์ส ประเทศนิวซีแลนด์ ในปี 2026
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน “เอเชีย-แปซิฟิก อเมเจอร์ แชมเปียนชิพ” ได้ที่ www.AACgolf.com
เครดิตภาพ: #AAC

