“ดีอี” เตือนข่าวปลอม “7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์ กัมพูชา” สร้างความสับสน เข้าใจผิดในสังคม

"ดีอี" เตือนข่าวปลอม “7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์ กัมพูชา” สร้างความสับสน เข้าใจผิดในสังคม

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “7 นักการเมืองไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ ในกัมพูชา” รองลงมาคือเรื่อง “ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หากเดินทางต่างประเทศ ต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ รายการยา ประกันสุขภาพ” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลในสังคม รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคงและภัยทางสังคมของนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ต้องการให้มีการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน

ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 17 – 23 ตุลาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,019,009 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 755 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 726 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 20 ข้อความ และช่องทาง Website จำนวน 9 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 176 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 62 เรื่อง

กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 120 เรื่อง

กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 22 เรื่อง

กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 4 เรื่อง

กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 0 เรื่อง

กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 30 เรื่อง

นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลและการให้บริการของหน่วยงานรัฐ ความมั่นคงระหว่างประเทศ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง 7 นักการเมืองไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ ในกัมพูชา

อันดับที่ 2 : เรื่อง ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หากเดินทางต่างประเทศ ต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ รายการยา ประกันสุขภาพ

อันดับที่ 3 : เรื่อง VITA Multivitamin Kids Gummies เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้กระดูก-ดวงตา-ผิวหนังแข็งแรง และช่วยสนับสนุนการพัฒนาสมอง

อันดับที่ 4 : เรื่อง ไทยปล่อยตัว 18 เชลยศึกกัมพูชา

อันดับที่ 5 : เรื่อง กัมพูชาร่าง 9 เงื่อนไขฟื้นฟูสันติภาพ ยืนยันไทยต้องรับทุกข้อเสนอโดยไม่มีเงื่อนไข

อันดับที่ 6 : เรื่อง เวียดนามร่วมมือไทย ไม่นำเข้าข้าวจากกัมพูชา

อันดับที่ 7 : เรื่อง กินยาปฏิชีวนะจะทำให้ติดเชื้อรา เพราะยาไปฆ่าแบคทีเรียดีในร่างกาย

อันดับที่ 8 : เรื่อง ก.คมนาคม อนุมัติให้แท็กซี่มิเตอร์ขึ้นค่าธรรมเนียมบริการในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

อันดับที่ 9 : เรื่อง ผลิตภัณฑ์ Diabene เพียง 1 กล่อง รักษาเบาหวานหายขาดตลอดชีวิต

อันดับที่ 10 : เรื่อง กองทัพไทยใช้อาวุธเคมีกว่า 70 ชนิดในการปฏิบัติการกับกัมพูชา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “7 นักการเมืองไทย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ ในกัมพูชา” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ตรวจสอบพบว่าเป็น ข้อมูลเท็จ โดยขอให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2568 สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยได้ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริง และไม่มีมูล เนื่องจากนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเกาหลีไม่เคยกล่าวถ้อยคำในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยจะดำเนินมาตรการตามความจำเป็น รวมถึงมาตรการทางกฎหมายต่อข่าวปลอมดังกล่าว จึงขอความร่วมมืองดส่งต่อข้อมูลดังกล่าว เพราะเป็นข่าวปลอมที่สร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชน

ด้านข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หากเดินทางต่างประเทศ ต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ รายการยา ประกันสุขภาพ” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กองประมวลและวิเคราะห์ข่าว กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการที่กำหนดให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ประสงค์เดินทางไปต่างประเทศต้องเตรียมใบรับรองแพทย์และรายการยาใดๆ รวมถึงการประกันสุขภาพ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ทั้งนี้ ผู้เดินทางควรตรวจสอบกับประเทศปลายทางเกี่ยวกับเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องเตรียมก่อนเดินทางทุกครั้งเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน และส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่
| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
| Line ID: @antifakenewscenter
| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand
| X : @AFNCThailand
| TikTok : @antifakenewscenter
| IG : afnc_thailand/

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“OCEAN CHUMPHON Soft Power Runway” ฉลองครบรอบ 42 ปี ปลุกพลัง Soft Power
ชาวระนองร่วมแสดงความอาลัย “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ในพิธีแห่พระใหญ่ เทศกาลถือศิลกินผัก
อวสาน“เสือเหลือง” สายแว้นเมืองคอน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงการณ์จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 2 คดี
ชัยภูมิ ประชาชนหลั่งซื้อเสื้อผ้าสีดำร่วมแสดงความอาลัย “พระพันปีหลวง”
มทร.อีสาน จับมือ บริษัท GAC AION ประเทศไทย ลงนามความร่วมมือ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยานยนต์สมัยใหม่ ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​