“กัน จอมพลัง” แถลงแจงยอดเงินบริจาคทั้งหมด ยินดีให้ตรวจสอบมูลนิธิฯ เตรียมยื่นมท.ด้วยตัวเอง พร้อมแก้ข้อ 39 เปลี่ยนจาก “มูลนิธิธรรมนัส” ขึ้นเป็นประธานเอง
ข่าวที่น่าสนใจ
24 ต.ค.2568 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” แถลงชี้แจงข้อสงสัยเรื่องเงินบริจาคของมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ พร้อมประธานและฝ่ายบัญชีมูลนิธิร่วมชี้แจง

น.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ แถลงว่า มูลนิธิเริ่มต้นด้วยเงินทุน 5 แสนบาทจากเพื่อนกัน จอมพลัง ปัจจุบันมีเงินเข้ารวม 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท คงเหลือกว่า 90 ล้านบาท ยืนยันว่าเริ่มรับบริจาคหลังจดทะเบียนตั้งมูลนิธิแล้ว ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมข้อบังคับระบุให้โอนเงินไปมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า หากยุบเลิกนั้น เป็นเพราะตอนยื่นเอกสารรีบดำเนินการและทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่าต้องระบุมูลนิธิหรือองค์กรที่จะรับช่วงต่อ เพื่อไม่ให้เงินบริจาคตกหล่น โดยอ้างอิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 134 โดยมูลนิธิที่จะรับช่วงต่อต้องมีวัตถุประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน

น.ส.กาญจนา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกำหนดมูลนิธิธรรมนัสไม่ได้หมายความว่ายกทรัพย์สินให้ทันที แต่จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการยุบเลิกเท่านั้น และที่ผ่านมาไม่เคยโอนเงินให้มูลนิธิธรรมนัส มีเพียงการบริจาคให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และมูลนิธิเพื่อนพึ่งภาฯ ยามยาก ตามวัตถุประสงค์ผู้บริจาค เช่น กรณี “แจ๊กสัน หวัง” ที่ขอให้โอนต่อให้สองมูลนิธิดังกล่าว ทั้งนี้มูลนิธิมีบัญชีของทั้งหมด 2 บัญชี มี 1 บัญชีที่เดินอยู่ อีกบัญชียังไม่ได้เคลื่อนไหว การเบิกเงินต้องมีกรรมการ 2 ใน 3 ซึ่งตนไม่เคยไปเบิกร่วมกับใคร
ด้านฝ่ายบัญชีระบุว่า มีเงินเข้ากว่า 5 แสนรายการ แต่ไม่พบการเบิกเงินสดใด ๆ เลย ขณะที่กัน จอมพลังยืนยันว่าไม่เคยถอนเงินสด เพราะต้องการให้ทุกอย่างโปร่งใส และท้าผู้กล่าวหานำหลักฐานมาชี้แจง
ส่วนเหตุผลที่เลือกมูลนิธิธรรมนัสเป็นผู้รับช่วงต่อ น.ส.กาญจนากล่าวว่า เพราะเคยร่วมงานกันช่วงช่วยเหลือน้ำท่วม และได้รับการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ ไม่ใช่เงิน เมื่อมหาดไทยกำหนดว่าต้องระบุชื่อมูลนิธิรับช่วงต่อ จึงขอความร่วมมือจากมูลนิธิธรรมนัส ซึ่งยินดีรับภาระดังกล่าว แต่สามารถแก้ไขภายหลังได้

กัน จอมพลัง ชี้แจงเพิ่มเติมว่า แม้เงินมูลนิธิจะเหลือ 90,177,156.02 บาท ดูเหมือนเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่เป็นเงินรอจ่ายทั้งนั้นสำหรับภารกิจที่ยังค้างอยู่ เช่น ทำถนน ห้องน้ำ ภารกิจชายแดน บังเกอร์ เป็นต้น มีจำนวนเงินรอจ่ายอยู่มากกว่า 94 ล้านบาท ทำให้เงินมูลนิธิติดลบประมาณ 4-5 ล้านบาท
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ที่ระบุว่าหากยุบมูลนิธิฯ แล้วจะโอนทรัพย์สินให้มูลนิธิธรรมนัสเพราะตอนนั้นรีบ ทำให้คิดน้อยไป ไม่ได้ตั้งใจให้คนเข้าใจผิด หรือจะยกเงินให้ใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเปลี่ยนข้อบังคับมูลนิธิข้อ 39 ให้เป็นมูลนิธิอื่นที่มั่นคงกว่า แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อ เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเกาะกระแสใคร

เมื่อถูกถามว่าทำไมไม่เป็นประธานมูลนิธิเอง กันตอบว่า เดิมต้องการให้มูลนิธิเป็นอิสระ โปร่งใส และดำรงอยู่ต่อได้แม้ตนไม่อยู่ แต่เมื่อมีข้อกังขาและเสียงเรียกร้องจากสังคม ตนพร้อมจะเข้ามานั่งเป็นประธานเองเพื่อยืนยันความโปร่งใสของมูลนิธิ
กัน จอมพลัง กล่าวอีกว่า ตนพร้อมจะให้ตรวจสอบว่ามูลนิธิฯ มีการทุจริตหรือไม่ โดยจะไปยื่นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยด้วยตนเอง เพื่อให้ตรวจสอบว่าการดำเงินงานของมูลนิธิมีความโปร่งใสหรือไม่ มีการโอนเงินไปให้ใครหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น