บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ จัดพิธีมอบรางวัล “โครงการโรงเรียนต้นแบบระบบบำบัดน้ำเสียโรงอาหาร” ประจำปี 2568 ณ โรงแรม Holiday Inn & Suites Siracha Laem Chabang อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมี คุณประจักษ์ อมรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 7 เขต ในจังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ร่วมแสดงความยินดีแก่โรงเรียนต้นแบบทั้ง 28 แห่ง ที่ได้รับรางวัลในปีนี้
โครงการ “โรงเรียนต้นแบบระบบบำบัดน้ำเสียโรงอาหาร” เป็นโครงการต่อยอดจากกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำของอีสท์ วอเตอร์ ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2554 มุ่งเน้นการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนและชุมชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ส่งเสริมให้โรงเรียนมีระบบบำบัดน้ำเสียโรงอาหารที่ได้มาตรฐาน และสามารถนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้จริง พร้อมขยายองค์ความรู้สู่ชุมชนโดยรอบ โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 7 เขต ใน 3 จังหวัด รวมถึง คณะกรรมการร่วมติดตามผลและตรวจประเมินโครงการ เพื่อกำหนดเกณฑ์ประเมินและให้คำแนะนำแก่โรงเรียนในการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกจะเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการน้ำอย่างง่ายในโรงอาหาร และเผยแพร่องค์ความรู้สู่โรงเรียนและชุมชนโดยรอบ
ในปี 2568 อีสท์ วอเตอร์สามารถดำเนินโครงการได้ครบตามเป้าหมาย โดยสร้างโรงเรียนต้นแบบฯ เพิ่มอีก 7 แห่ง รวมเป็น 28 โรงเรียนต้นแบบระดับเพชร จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 7 เขตในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยมีเป้าหมายจะขยายครบ 35 โรงเรียนต้นแบบ ภายในปี 2570 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 35 ปีแห่งการก่อตั้งอีสท์ วอเตอร์
คุณประจักษ์ อมรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า “ตลอด 33 ปีที่ผ่านมา อีสท์ วอเตอร์มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ผ่านการลงทุนพัฒนาโครงข่ายท่อส่งน้ำ (Water Grid) ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ความสำเร็จของโครงการโรงเรียนต้นแบบระบบบำบัดน้ำเสียโรงอาหาร ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนและชุมชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของน้ำ และช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของอีสท์ วอเตอร์ในการดูแลน้ำอย่างรับผิดชอบและสร้างประโยชน์ต่อสังคม”