“นายกฯ” ไม่รู้ “ฮุน มาเนต” ทำกร้าว ไม่อยากเจรจาหยุดยิง ยันการหารือสันติภาพเดินหน้าปกติ ลั่นพร้อมรับฟัง “โรม” ปมสแกมเมอร์ แต่ย้ำต้องมีหลักฐานจริง
ข่าวที่น่าสนใจ
19 ตุลาคม 2568 ที่สนามฟุตบอลโปโลฟุตบอลพาร์ค เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ต้องการลงนามสันติภาพและเจรจาหยุดยิง ว่าตนยังไม่ทราบข่าวเรื่องนี้ เพราะขณะนี้ข้อตกลงดังกล่าวก็ยังเดินหน้า ประเทศไทยมีจุดยืน 4 ข้อ ส่วนเรื่องการประชุม JBC ถือเป็นคนละเรื่องไม่ส่งผล เพราะเป็นเรื่องของการปักเขตแดน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการมาได้เกินครึ่งแล้ว ก็ยังคงเดินหน้าเจรจา แต่ต้องใช้เวลา ส่วนการประชุมGBC ก็ยังคงเดือนหน้า เช่นเดียวกันกับการเจรจาของระหว่างกระทรวงการต่างประเทศระหว่างสองประเทศ
เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังยืดเยื้อมาถึงขณะนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความคืบหน้าหลายอย่าง การที่เราไม่ถูกคุกคามยั่วยุและยิงข้ามฝั่งมาเกือบสองเดือนแล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในความคืบหน้าอย่างหนึ่ง ซึ่งเราก็ได้แสดงให้เขาเห็นว่า ประเทศไทยรับไม่ได้และพร้อมจะโต้ตอบอย่างเต็มที่ แสดงเห็นว่าเขารับทราบข้อมูลข่าวสารจากฝั่งเรา จะเอาความสนุก ความสะใจอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่ยังยืนยันได้คือตอนนี้จะไม่ยอมให้เขามาละเมิดอธิปไตยและทำร้ายคนของเราอีกต่อไป
ส่วนกรณีล่าสุดสถานทูตเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีการให้ข่าว 7 นักการเมืองไทย เชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ นายอนุทิน ย้อนถามว่า ก็ถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว ซึ่งเกาหลีใต้ก็ออกมาแถลงแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก่อนที่อนุทินจะรีบส่ายหัวว่า ไม่ๆ ไม่ ไม่ใช่ความจริงต้องไม่ถาม และย้ำต่อว่าถามไม่ได้ ถามไม่ได้ เราปราบจริงจังอยู่แล้ว สัปดาห์ที่แล้วก็จับกุมวงเงินหลายหมื่นล้าน ขอให้ไปถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพราะได้รายงานตนมาเป็นชุดเลย และจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้แถลงเพราะจะได้ให้ตัวเลขเป็นที่แม่นยำ ส่วนเรื่อง7นักการเมืองทางสถานทูตเกาหลีใต้ก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นที่ สปป.ลาว ตนก็ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กือบครึ่งชั่วโมง ก็ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีละเว้น ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือใครก็ตาม เพราะสแกมเมอร์ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญของประเทศและของโลก มีผู้เสียหายจากเครื่องนี้จำนวนมาก
เมื่อถามต่อว่ามั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าไม่มีคนในรัฐบาลนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต่อให้มีหรือไม่มี ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า ใครที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดี อย่างถึงที่สุด
เมื่อถามว่า หากนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นำข้อมูลเรื่องสแกมเมอร์มาให้ ก็ยินดีรับฟังใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยินดี แต่ต้องมีหลักฐาน เพื่อนำไปขยายผล พูดกันลอยๆ ไม่ได้ต้องมีหลักฐาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถนำไปดำเนินคดีต่อได้ ส่วนตัวก็อยากเชิญนายรังสิมันต์มาหารือเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นคนที่ให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องที่แม่สอดแล้ว ส่วนที่บอกว่าช้าตั้งแต่เรื่องการตัดไฟ ยืนยันว่าตั้งแต่ทันทีที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.มีมติให้ตัดไฟก็ดำเนินการทันที แต่อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการระเบียบและกฎหมายที่มี ยืนยันว่าไม่ได้ช้า ตนเข้าใจถึงความคาดหวังและความเดือดร้อนของประชาชนดี วันนี้ภัยคุกคามต่างๆเกิดขึ้นแล้ว การจับสแกมเมอร์ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา ย้ำว่ารายละเอียดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็กำลังออกมาแถลง และตนได้ตั้งคณะกรรมการปราบปรามสแกมเมอร์ขึ้นมา ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะประชุมชุดใหญ่เพื่อแบ่งงานให้ดำเนินการ เรื่องนี้ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงของชาติ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า หากผู้สื่อข่าวถามถึงแผนงาน จะดำเนินการอย่างไรถึงไหนแล้ว ถ้าบอกหมดทุกอย่าง เขาก็แก้ทัน แต่อะไรที่เราเปิดเผยได้เราก็ทำ แต่ตอนนี้สิ่งที่พูดได้อย่างมั่นใจคือ ไม่มีนโยบายไหนที่จะยอมลดลาวาศอกกับสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตนพูดได้แค่นี้ และปล่อยให้คนทำไปทำ หากตนไปพูดก่อนก็อาจจะถูกตำหนิ จะทำให้คนร้ายไหวตัวสามารถแก้เกมได้ อย่างเช่นเรื่องยาเสพติด ตอนนี้ก็อ้อมไปทางเมียนมา แสดงว่าเส้นทางเดิมใช้ไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนวิธีการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น