‘โฆษกกลาโหม’ ย้ำไทยมีจุดยืนชัด 4 เงื่อนไข ยื่นคำขาด ‘ฮุนเซน’ ต้องทำตาม หากขอเปิดด่านชายแดน ลั่นควรย้อนมองการกระทำตัวเอง ก่อนเจรจา
ข่าวที่น่าสนใจ
15 ต.ค.2568 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุถึงความเคลื่อนไหวของ “ฮุน เซน” กรณีกดดันให้ไทยเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ตุลาคม นี้ ว่า โดยส่วนตัวไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ขณะนี้ไทยยังไม่มีมาตรการอื่นใดนอกเหนือจากเงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1.ถอนอาวุธหนัก 2.เก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.ปราบปรามสแกมเมอร์ และ 4.บริหารจัดการพื้นที่ ชายแดนที่มีปัญหาตามข้อเสนอจากวงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา และต้องมีกลไกความร่วมมือมาพูดคุยกัน เพื่อให้ 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นรูปธรรมก่อนจึงค่อยไปคุยเรื่องอื่น โดยไทยพูดชัดเจนว่าหากจะมีการเจรจาใดๆทางกัมพูชาต้องยอมรับในเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และมีผลเป็นที่น่าพึงพอใจจึงค่อยไปคุยในประเด็นอื่น
โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุถึงข้อสังเกตกรณี “ฮุน เซน” อาจจะสูญเสียรายได้จึงพุ่งเป้ากดดันเรื่องการเปิดด่าน ว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องการสูญเสียรายได้ของทางกัมพูชา แต่คาดคะเนได้จากผลกระทบด้านการค้าตามแนวชายแดนที่สืบเนื่องจากมาตรการปิดด่านของไทย แต่ย้ำว่ามาตรการปิดด่านที่ไทยดำเนินการมีความเหมาะสม และเป็นการกดดันกัมพูชาในเชิงหลักสากล
“กัมพูชาก็ต้องย้อนมองตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน ก่อนที่จะออกมาพูดว่าขอเปิดด่าน เพราะขณะนี้ฝ่ายไทยยืนยันเป็นแนวทางเดียวกันหมด ตั้งแต่รัฐบาลไปจนถึงระดับพื้นที่ว่าต้องยึดในเงื่อนไข 4 ข้อ ก่อนที่จะไปคุยเรื่องอื่น”
ทั้งนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันในเงื่อนไข 4 ข้อว่า กัมพูชาต้องยอมรับเรื่องนี้ก่อน จึงจะนำไปสู่การเจรจา และในระดับพื้นที่ก็ย้ำในจุดยืนเดียวกันว่าจะต้องมีเรื่องของการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน เช่น เรื่องการเก็บกู้เพื่อระเบิด และจัดการชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย แต่ทางกัมพูชากลับไม่มีแผนปฏิบัติการใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม
ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 ก็ได้แจ้งไปทางกัมพูชา เลื่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย-กัมพูชา กับภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากกัมพูชายังไม่ได้ส่งแผนปฏิบัติการ
ส่วนท่าทีของโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมาเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชา มองว่า ทางสหรัฐฯ มีศักยภาพในการดำเนินการ และมีประเทศพันธมิตรต่างๆ ที่จะร่วมสนับสนุน ถือเป็นสิ่งที่ดีกับภูมิภาค และสะท้อนว่าสหรัฐฯ มีความห่วงใยในภูมิภาคนี้ ซึ่งหากมองในเรื่องของเจตนารมณ์ไม่ได้มองเฉพาะเรื่องของการรักษาสมดุลก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะประเด็นสำคัญในการแก้ไขปัญหาไทยกัมพูชาคือการสร้างความสงบให้เกิดขึ้น โดยมองว่า ปัจจัยที่จะนำไปสู่การเจรจาได้ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากเศรษฐกิจในประเทศของกัมพูชาเอง ขณะเดียวกันไทยก็ต้องการคลี่คลายความตึงเครียดตามตามแนวชายแดน เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิต โดยปกติสุขไม่ต้องหวาดกลัวหรือกังวลว่าจะเกิดการปะทะ ในพื้นที่ชายแดน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น