The Times of Israel และ AFP รายงานว่าสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษสหรัฐพร้อมด้วยจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยและอิวางก้า ลูกสาวทรัมป์ได้เข้าร่วมการชุมนุมที่จัดขึ้นโดยครอบครัวตัวประกันชาวอิสราเอลที่จตุรัสตัวประกันในกรุงเทลอาวีฟเมื่อคืนที่ผ่านมา (เสาร์ที่ 11 ตค.) โดยมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน ท่ามกลางบรรยากาศที่ท่วมท้นไปด้วยอารมณ์แห่งความปิติยินดี
วิตคอฟฟ์, คุชเนอร์และภรรยาได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีประกาศว่าตัวประกันทั้งหมดกำลังจะกลับบ้านพร้อมยกย่องความกล้าหาญของครอบครัวตัวประกันที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ขณะที่ผู้เข้าร่วมชุมนุมต่างตะโกนขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำให้เกิดสันติภาพกาซาและยุติสงครามที่ยึดเยื้อมาครบ 735 วัน โดยผู้ชุมนุมต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อยืดที่มีรูปใบหน้าของตัวประกันที่คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวในวันจันทร์ โดยก่อนหน้านี้ วิตคอฟฟ์และคณะยังได้เข้าไปดูสภาพความเสียหายในฉนวนกาซาในช่วงเช้าวันเสาร์
ภายใต้แผนสันติภาพของทรัมป์ ฮามาสมีกำหนดจะปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมด 47 คนโดย 20 คนเชื่อว่ายังมีชีวิตในช่วงเช้าพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 13 ตค.) แลกกลับการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยนายจากเรือนจำอิสราเอล ซึ่งขั้นตอนนี้อยู่ภายใต้เฟสหนึ่ง
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่าฝูงชนชาวปาเลสไตน์ราว 5 แสนคนได้ทยอยมุ่งหน้าขึ้นสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซา เพื่อกลับบ้านแต่ก็ไปเจอกับสภาพบ้านที่พังทลายหลังจากอิสราเอลถอนกำลังออกไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
ด้านกลุ่มฮามาสได้ระดมนักรบหลายพันนายเพื่อเตรียมความพร้อมรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งเหตุวุ่นวายและการชิงอำนาจของกลุ่มติดอาวุธต่างๆที่คาดว่าจะมีขึ้นหลังจากอิสราเอลถอนทหารออกจากกาซา ซึ่งล่าสุดก็รายงานการปะทะกันระหว่างกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆในฉนวนกาซาแล้ว