AFP และสถานีโทรทัศน์ทางการเวียดนามรายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำบั่ง, แม่น้ำเทืองและแม่น้ำจุงในพื้นที่ตอนเหนือของเวียดนามเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2529 หรือในรอบ 39 ปีระหว่างคืนวันอังคารถึงวันนี้ (พุธที่ 8 ตค.) โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่น้ำจุงซึ่งอยู่ที่จังหวัดหล่างเซินซึ่งอยู่ติดพรมแดนจีน กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นสูงสุดใกล้ 2 เมตร ทำลายสถิติที่เคยมีการบันทึก
กระทรวงสิ่งแวดล้อมเวียดนามเผยว่าชุมชนหลายสิบแห่งที่จังหวัดท้ายเงวียน, กาวบั่ง, และบั๊กนิญ ทางเหนือของเวียดนามจมอยู่ใต้น้ำ โดยระดับน้ำสูงถึงหลังคารถ บางพื้นที่สูงถึงหลังคา ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 4 พัน 800 หลังได้รับผลกระทบ ประชาชนหลายหมื่นคนติดค้างอยู่ภายในบ้าน หรือต้องอพยพพลัดถิ่น ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 คน สูญหาย 5 คนจากน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่ม
ขณะที่ถนนหลายสายในกรุงฮานอยก็จมอยู่ใต้น้ำหลังจากเกิดฝนตกต่อเนื่อง โดยหลายพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนมากถึง 350 มิลลิเมตร โดยล่าสุดมีรายงานน้ำท่วมในพื้นที่ 90 แห่งทั่วฮานอย
อุทกภัยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นอิทธิพลของไต้ฝุ่นแมตโต ซึ่งแม้จะอ่อนกำลังลงแต่ก็สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับพื้นที่ทางเหนือของเวียดนาม หลังจากเพิ่งถูกไต้ฝุ่นบัวลอยพัดถล่มไปเพียง 1 สัปดาห์ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับเวียดนามประมาณมูลค่ามากกว่า 710 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือกว่า 2 หมื่น 3 พันล้านบาท