CNN และรอยเตอร์สรายงานว่าองค์การบริหารการบินสหรัฐหรือ FAA ได้ออกคำเตือนเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 7 ตค.) เรื่องปัญหาเที่ยวบินล่าช้าในสนามบินหลายแห่งทั่วประเทศต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐดำเนินมาเป็นเวลา 7 วันเต็ม ล่าสุดเริ่มลุกลามไปยังสนามบินหลักๆทั่วประเทศ
ข้อมูลจาก Flightaware เว็ปไซต์ติดตามไฟล์ทเผยว่าเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 7 ตค.)สหรัฐมีปัญหาเที่ยวบินดีเลย์มากกว่า 3 พันไฟล์ทที่สนามบินหลายแห่งทั่วประเทศรวมทั้งสนามบินฮุสตันและดัลลัส ที่รัฐเท็กซัส, สนามบินแนชวิล ที่รัฐเทนเนสซี, สนามบินนานาชาติโอแฮร์ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์และสนามบินนานาชาตินิววอร์ก รัฐนิวเจอร์ซี
ทั้งนี้ FAA ได้สั่งลดจำนวนเที่ยวบินขาเข้าลงเพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรทางอากาศ ทำให้เที่ยวบินดีเลย์อัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 30-41 นาทีที่สนามบินโอแฮร์ชิคาโกและนิววอร์ก ขณะที่สนามบินแนชวีลต้องใช้ทีมเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินจากศูนย์การบินเมมฟิสแทน ซึ่งพรรคริพับลิกันและเดโมแครตต่างโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่าย
ปัญหาเที่ยวบินล่าช้าเป็นผลมาจากการชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐซึ่งเริ่มวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการบินทางอากาศ 1 หมื่น 3 พันคนและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงด้านการขนส่ง 5 หมื่นคนต้องมาทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน ส่งผลให้อัตราการลาป่วยของเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินเพิ่มสูงขึ้นราว 50% นับตั้งแต่เกิดภาวะชัตดาวน์
