“ชาวกันทรลักษ์” ศรีสะเกษ ยิ้มออก แห่กดเงินเยียวยาอพยพเข้าบัญชี เหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยต่อลมหายใจครอบครัว

ชาวบ้านยิ้มออก เงินเยียวยาอพยพชายแดนไทยเข้าบัญชีแล้ว ช่วยต่อลมหายใจครอบครัว

“ชาวกันทรลักษ์” ศรีสะเกษ ยิ้มออก แห่กดเงินเยียวยาอพยพเข้าบัญชี เหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยต่อลมหายใจครอบครัว – Top News รายงาน

ชาวกันทรลักษ์

 

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 บรรยากาศในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดหลักที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณชายแดนเขาพระวิหารเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยวันนี้ ตลอดทั้งวันมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปที่ธนาคาร และตู้เอทีเอ็ม เพื่อกดเงินเยียวยาที่รัฐบาลได้โอนเข้าบัญชีให้เป็นวันที่สอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและรอยยิ้ม หลังจากที่หลายครัวเรือนรอคอยความช่วยเหลือนี้มานานกว่า 2 เดือน รัฐบาลได้อนุมัติจ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่ผู้อพยพ จากสถานการณ์ไม่สงบระหว่างไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ผู้ที่อพยพ ไม่เกิน 7 วัน จะได้รับเงิน ครัวเรือนละ 2,000 บาท และผู้ที่อพยพ เกิน 7 วันขึ้นไป จะได้รับเงิน ครัวเรือนละ 5,000 บาท ประชาชนที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้กับหมายเลขบัตรประชาชน จะได้รับเงินโอนตรงจากส่วนกลางเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ

ส่วนผู้ที่ไม่ได้ผูกบัญชีสามารถติดต่อธนาคารในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและรับเงินสดได้ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะในอำเภอกันทรลักษ์ มีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับสิทธิ์ในรอบนี้ คาดว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 12 ล้านบาท

นางดนตรี ดาผา อายุ 48 ปี ชาวบ้านชายแดน บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยความดีใจ ว่า หลังเช็กยอดเงินในบัญชีแล้วพบว่าได้รับเงินเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 บาท ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะได้หรือไม่ เพราะตนเช่าบ้านอยู่ ไม่ได้มีชื่อในทะเบียนบ้าน แต่เจ้าของบ้านและผู้ใหญ่บ้านช่วยประสานให้ ตอนนี้ได้เงินแล้วรู้สึกดีใจมาก จะนำไปใช้จ่ายในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องลูกหลานไปโรงเรียนและค่าอาหารในแต่ละวัน ถือว่าช่วยได้เยอะเลย เพราะช่วงอพยพต้องหยุดงานหลายวัน รายได้หาย

 

นางดนตรี บอกอีกว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต เพราะไม่คิดว่าการหนีภัยจะต้องใช้เงินมากขนาดนั้น ต้องซื้อน้ำ อาหาร เสื้อผ้า และของใช้จำเป็นทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต การได้เงินเยียวยาครั้งนี้จึงเป็นเหมือน ความหวังใหม่ สำหรับครอบครัว

 

ขณะที่นางสาวบุษบง นาม อายุ 35 ปี ชาวบ้านชายแดน กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุปะทะ ชาวบ้านต่างหนีตายกันอลหม่าน หลายครอบครัวต้องทิ้งทรัพย์สินไว้ในบ้าน ไม่มีโอกาสเก็บของได้มากนัก “ตอนอพยพออกมา เงินหมดเร็วมาก ต้องซื้อน้ำมัน เดินทางไปพักที่ศูนย์อพยพ หลายวันไม่ได้ทำมาหากินเลย ตอนนี้ได้เงินมาถึงแม้ไม่มาก แต่ก็พอช่วยต่อชีวิต จะเก็บไว้ใช้จ่ายเฉพาะจำเป็น และเก็บไว้เผื่อหากมีเหตุให้อพยพอีก เพราะยังไม่มั่นใจสถานการณ์ชายแดนตอนนี้” เงินจำนวนนี้แม้ไม่มากแต่มีค่ามากสำหรับครอบครัวเล็กๆ เพราะสามารถซื้ออาหาร ข้าวของเครื่องใช้ และจ่ายหนี้สินที่ค้างไว้ได้บางส่วน ต้องพร้อมขอบคุณรัฐบาลและหน่วยงานที่ไม่ทอดทิ้งประชาชนชายแดน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดศึกแห่งสายน้ำสุดยิ่งใหญ่ "แข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ" จ.เพชรบูรณ์ 
"สืบนครบาล" บุกยึด SIM BOX พร้อมอุปกรณ์โทรหลอกลวงเหยื่อ ย่านคลองสามวา หลังขยายผลจับกุมหญิงไทย-ชาวไต้หวัน
ฉก.ทัพเจ้าตาก ยิงปะทะแก๊งขนยาเสพติด ชายแดน อ.แม่สาย ยึดไอซ์ 245 กก.
"อุ๊งอิ๊ง" ลั่นปลุกใจเพื่อไทย เตรียมแคนดิเดตนายกฯแล้ว เลือดไหลออกมีเติมใหม่ตลอด มั่นใจพรรคพร้อมเลือกตั้ง
ชาวสมุทรสาคร แนะปลดล็อก "อวนรุน-ไอ้โง่" กำจัดปลาหมอคางดำ
เปิดเงื่อนไขรายละเอียด "คนละครึ่งพลัส" คุณสมบัติ-ขั้นตอนลงทะเบียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​