“ไชยชนก” สั่งการ สคส. ตรวจเข้มสแกนม่านตา ทุกพื้นที่ ย้ำห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

“ไชยชนก” สั่งการ สคส. ตรวจเข้มสแกนม่านตา ทุกพื้นที่ ย้ำห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมสแกนม่านตาเพื่อรับสินทรัพย์ดิจิทัล (เหรียญเงินคริปโทเคอร์เรนซี) จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลในประเด็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และอาจมีการนำข้อมูลนั้นไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ตรวจสอบกรณีนี้อย่างใกล้ชิด โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องของการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ที่ผ่านมา กระทรวงดีอี โดย สคส. ได้มีการแจ้งเตือนภัยถึงการสแกนม่านตาแลกเหรียญดิจิทัล โดยเฉพาะประเด็นข้อมูลชีวมิติ (biometric data) ซึ่งข้อมูลม่านตาถือเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” ที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่ง สคส. ได้มีการร่วมหารือกับบริษัท ทูลส์ ฟอร์ ฮิวแมนนิตี้ (Tools for Humanity – TFH) บริษัทเจ้าของโครงการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ ติดตาม และวางแนวทางร่วมกัน โดยมีสาระที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1.การจัดเก็บและทำลายข้อมูล
บริษัทต้องแสดงให้เห็นว่า ข้อมูลม่านตาจะถูกลบหรือทำลายทันทีเมื่อหมดวัตถุประสงค์ พร้อมส่งเอกสารยืนยันกระบวนการต่อ สคส.
2.การควบคุมการรับจ้างสแกนม่านตา
เตือนประชาชนให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะมีข้อมูลในสื่อสาธารณะ เรื่องที่มาที่ไปของข้อมูลและแหล่งเงิน ควรต้องรอให้หน่วยงานตรวจสอบอย่างชัดเจน พร้อมขอให้บริษัทผู้ให้บริการรายงานหลักฐานเกี่ยวกับกรณีนี้
3. ความโปร่งใสในการขอความยินยอม
ผู้ให้บริการต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนว่าข้อมูลจะถูกใช้อย่างไร แปลงเป็นรหัสรูปแบบไหน มีการป้องกันข้อมูลอย่างไร และต้องได้รับความยินยอมอย่างแท้จริงจากผู้ใช้

 

“ตนขอเน้นย้ำว่า เรื่องการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันถือเป็นสิ่งที่ดี เพื่ออำนวยความสะดวก หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันการใช้งานเทคโนโลยีนั้นจะต้องไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นไปใช้ในการอื่น” รมว.ดีอี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังคงมีประชาชนให้ความสนใจเข้ารับบริการสแกนม่านตา ซึ่งทางกระทรวงดีอี มีความห่วงใยและขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง ดังนั้นตนจึงสั่งการให้ สคส. ได้ลงตรวจสอบในทุกพื้นที่ เพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่ากิจกรรมดังกล่าวจะไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนที่ร่วมกิจกรรม เนื่องจากพบว่า หลายแห่งไม่ได้มีการระบุข้อมูลสำคัญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และไม่ระบุวัตถุประสงค์ของการเก็บข้อมูลม่านตาอย่างชัดเจน ตลอดจนไม่มีการแจ้งเตือนว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลชีวมิติที่สามารถระบุตัวตนได้ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายการละเมิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อย่างชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สนง.สลากฯ" คว้า 2 รางวัลใหญ่ รัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 68 "พ.ท.หนุน" เผย ปี69 รุกพัฒนาต่อเนื่อง ยกระดับความสำคัญ ESG สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล
ฉะเชิงเทรา สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทรา ประชุม อกท.ระดับชาติ ครั้งที่ 4/2568
เปิดภาพ กกล.บูรพา ลุยทำลายเป้าหมายอาคาร 2 หลัง ฝั่งปอยเปต เครือข่ายสแกมเมอร์ ใช้เป็นฐานพลซุ่มยิงทหารไทย
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 8 นครสวรรค์ จัดอบรมเพิ่มทักษะแรงงานอิสระและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ
อดีต สส. ชลบุรี แจ้งความเอาผิด เงินฝากกว่า 2 แสนหายจากบัญชี ทั้งที่ไม่เคยถอน ธนาคารพบปลอมเอกสารเบิกเงิน
"นายกฯอนุทิน" ลั่นไม่อยากกลืนน้ำลาย ไม่ขอพูดเงื่อนไขจับมือตั้งรัฐบาล เผย "เอกนิติ-ศุภจี" ยังร่วมทำงานภูมิใจไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​