“สภากลาโหม” เคาะ 8 นโยบายเร่งด่วน สนองนโยบาย-เป็นเอกภาพกับรัฐบาล รักษาความเชื่อมั่นและศรัทธาของปชช.

"สภากลาโหม" เคาะ 8 นโยบายเร่งด่วน สนองนโยบาย-เป็นเอกภาพกับรัฐบาล รักษาความเชื่อมั่นและศรัทธาของปชช.

วันนี้ (2 ต.ค.68) เวลา 11.55 น. ที่กระทรวงกลาโหม พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 9/2568 โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยฯ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม

โดยรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และแสดงความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อนำพาและพัฒนากองทัพให้มีความพร้อม ทันสมัย เข้มแข็ง สง่างาม เป็นมืออาชีพ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส ได้รับความเชื่อมั่นจากสังคม และได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ พร้อมมอบนโยบายสำคัญ เร่งด่วน 8 ข้อ ในช่วงที่รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ตลอด 4 เดือนนี้
ข้อที่ 1 ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่สุด คือการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยให้ความสำคัญกับการรักษาอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ ความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก และเน้นย้ำเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข้อที่ 2 การพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้เกื้อกูลต่อการเคลื่อนย้ายกำลัง การป้องกันชายแดน การป้องกันประเทศ และการปฏิบัติการทางทหารอื่นๆ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเหล่าทัพเร่งรัดการดำเนินการ พัฒนาระบบสาธารณูปโภค และสายส่งกำลังบำรุงให้กับหน่วยทหารที่อยู่แนวหน้า
ข้อที่ 3 การเสริมสร้างกองทัพให้มีศักยภาพและความพร้อม ในการรองรับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การนำโดรน UAS หรือ CAUS หรือระบบแอนตี้โดรนมาใช้ รวมทั้งพัฒนาปฏิบัติการรบผสมเหล่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันเหล่าทัพสามารถรบร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นส่วนรับผิดชอบหลัก
ข้อที่ 4 การพัฒนากองทัพให้มีโครงสร้างที่เหมาะสม พร้อมรบ และทันสมัย รวมทั้งกำหนดสัดส่วนงบประมาณที่เหมาะสม ระหว่างงบพื้นฐานกับงบพัฒนากองทัพ
ข้อที่ 5 การพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลของกองทัพ ในการใช้เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานพลเรือน มีการจัดทำ MOU ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ข้อที่ 6 คือการพัฒนางานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมุ่งสู่เชิงพาณิชย์ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมภาคเอกชน เพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ เนื่องจากปัจจุบันไทยจำเป็นต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ข้อที่ 7 การพัฒนาศักยภาพและดูแลสิทธิสวัสดิการของกำลังพลชั้นผู้น้อย และทหารกองประจำการ ตลอดจนครอบครัวของกำลังพลให้มีความมั่นคง
ข้อที่ 8 การยกระดับระบบการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เพื่อดูแลทหารผ่านศึกและครอบครัวได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน ครอบคลุมถึงการดูแลเรื่องเงินค่าตอบแทน เงินเยียวยาต่างๆ และสิทธิต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่

 

ทั้งนี้ ในที่ประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ชื่นชมกำลังพลทุกระดับ ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมา ด้วยความเสียสละ อดทน เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จนเป็นที่ไว้วางใจ เชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชน สมศักดิ์ศรีของกองทัพ

โดยเน้นย้ำ ให้ธำรงรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของทหารและกองทัพ ในสายตาของประชาชน ทั้งในและเวลาราชการ ตลอดจนการใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างมีความรับผิดชอบ และเน้นย้ำให้ทำงานร่วมกันด้วยความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาล เป็นเอกภาพ โดยยึดถือความถูกต้อง ความมีเหตุและผล และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปศุสัตว์​นครสวรรค์​ มอบหญ้าอาหารสัตว์​พระราชทาน เกษตรกรที่ประสบอุทกภัย จ.นครสวรรค์
นายก อบจ.พิษณุโลก ให้การต้อนรับปลัด อบจ.พิษณุโลก คนใหม่
มทบ.39 จัดพิธีรับมอบตำแหน่งผู้บังคับบัญชาคนใหม่
สถานการณ์ชายแดนยืดเยื้อ..แม่ค้าร้านส้มตำ ปิดร้าน ย้ายไปขายที่อื่น หลังต้องแบกรับหนี้สินมานาน วอนจัดการให้จบ
กกต.สั่งสอบเข้ม ปมเอกสาร "คดีฮั้วสว." หลุด ขีดเส้น 30 วันรู้ผล
ฉก.ราชมนู ร่วมตำรวจ-ปกครอง สกัดจับ แก๊งลอบขนอาวุธสงคราม เตรียมส่งขายชนกลุ่มน้อยชายแดนไทย-เมียนมา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​