“ชัชชาติ” ไม่ฝืนแล้ว เดินหน้าแก้หนี้ค้างจ่าย จ้าง BTS เดินรถไฟฟ้า ขอสภากทม.ตั้งงบฯพิเศษเพิ่ม 3.2 หมื่นล้าน หวังลดภาระดอกเบี้ยพุ่งทุกวัน

"ชัชชาติ" ไม่ฝืนแล้ว เดินหน้าแก้หนี้ค้างจ่าย จ้าง BTS เดินรถไฟฟ้า ขอสภากทม.ตั้งงบฯพิเศษเพิ่ม 3.2 หมื่นล้าน หวังลดภาระดอกเบี้ยพุ่งทุกวัน

วันที่ 1 ต.ค. 68 การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 1) ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง โดยมีนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยื่นญัตติเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 พ.ศ. ….. จำนวนไม่เกิน 32,625,106,200 บาท เป็นรายจ่ายพิเศษ จ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ชำระหนี้รถไฟฟ้าBTS
ตามที่คณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สภากทม. ได้รายงานผลการศึกษาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง(O&M) ในส่วนที่กรุงเทพมหานครยังไม่ได้ชำระหนี้ซึ่งบางส่วนอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองและมีแนวโน้มอย่างสูงว่าการพิจารณาจะเป็นไปในแนวทางเดียวกับคดีที่ 1 และบางส่วนได้ถึงกำหนดชำระเงินแล้ว ทั้งสองส่วนมีภาระดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะกระทบต่อสถานะทางการเงินของกรุงเทพมหานคร เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นและไม่ให้เกิดความเสียหายต่อกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการวิสามัญฯ มีข้อเสนอให้ผู้บริหารกทม. เร่งรัดดำเนินการตามผลเจรจาเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่กรุงเทพมหานคร

ข่าวที่น่าสนใจ

ดังนั้น กรุงเทพมหานครได้มอบให้ บจก. กรุงเทพธนาคม เจรจากับ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ผลจากการเจรจาโดยสรุปคือ กรณี บจก. กรุงเทพธนาคม ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงฯ พร้อมดอกเบี้ย ภายในเดือนตุลาคม 2568 โดยให้กรุงเทพมหานครชำระโดยตรงกับ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เพื่อลดขั้นตอนและภาระทางการเงิน โดยพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 – วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 จาก MLR บวก 1% ให้เหลือเพียง MLR ซึ่งจะช่วยลดภาระทางดอกเบี้ยได้ประมาณ 286.4 ล้านบาท
ทั้งนี้ภายหลังศาลปกครองได้มีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร และ บจก. กรุงเทพธนาคมชำระหนี้ดังกล่าว หน่วยงานจึงได้เสนอขอตั้งงบประมาณในครั้งนี้ โดยคำนึงยอดดอกเบี้ยที่ต้องชำระจนถึงเดือนพฤษจิกายน 2568 รวม 32,625,106,200 บาท โดยในที่ประชุมผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้รายงานฐานะเงินสะสมของกรุงเทพมหานครเพื่อให้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครประกอบการพิจารณาด้วย
นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า ดีใจที่เห็นฝ่ายบริหารยื่นญัตตินี้เข้ามาเนื่องจากเป็นเรื่องที่กังวลมาตลอดว่ากรุงเทพมหานครจะต้องแบกภาระหนี้รถไฟฟ้า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ต่อสู้ตามกระบวนการของศาลอย่างที่สุดแล้ว
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวว่าตนก็รู้สึกยินดีเช่นกันที่ฝ่ายบริหารเสนอญัตตินี้เข้ามาเนื่องจากภาระดอกเบี้ยมีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน หากล่าช้าเพียง 1เดือนดอกเบี้ยก็จะสูงกว่า 200 ล้านบาท และความเสียหายกับกรุงเทพมหานครก็จะสูงขึ้นตาม
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า หลังจากมีคำสั่งศาลออกมาก็ทำให้กรุงเทพมหานครมั่นใจและมีหลักในการทำงานต่อได้ และจะทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ที่ผ่านมามีขั้นตอนในกระบวนการเจรจากว่าจะมีคำสั่งศาลออกมา และฝ่ายบริหารได้พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว อาจไม่ถูกใจทุกคนและไม่รวดเร็ว แต่ทำด้วยความรอบคอบ เราเคารพคำตัดสินของศาลซึ่งจะน้อมรับและปฏิบัติตาม
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต ตามนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ของรัฐบาลเดิม จากการหารือกับกระทรวงคมนาคมรัฐบาลจะจ่ายในส่วนของค่าเดินรถ แต่ขณะนี้ไม่มีแล้ว จึงจำเป็นต้องออกเป็นข้อบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึงการให้สภากรุงเทพมหานครพิจารณาต่อไป
จากนั้นที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติรับหลักการ และให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณา จำนวน 24 ท่าน กำหนดพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 45 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จ.น่าน ประชุมคณะทำงาน “อารยสถาปัตย์” มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล
แม่ทัพภาค 4 คนใหม่ ลั่น! ชายแดนใต้ไม่ใช่สมรภูมิรบ
"ปรรณพัชร์-ไมเคิล" ประเดิมคว้าชัย สิงห์ คาร์ท คัพ 2025
นายอำเภอปัว สั่งปิดสะพานข้ามแม่น้ำน่าน หลังถูกน้ำซัดพัง
"นายกฯ อนุทิน" ขอคุยสมช.ก่อน เหตุสื่อมะกันแพร่บทความ "จีน" ส่งอาวุธล็อตใหญ่ ให้กัมพูชาใช้รบทหารไทย
สิงห์โอเพ่นจูเนียร์ ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​