“หมอวี” ชมเปลาะ “ศุภจี” ดันมาตรการลดค่าครองชีพ คุมราคายา-เวชภัณฑ์รพ.เอกชน ชี้ปชช.ได้ประโยชน์หลายมิติ โซเชียลหนุนเต็มสูบ
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีที่นางศุภจี สุธรรมพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวตอนหนึ่งในการชี้แจงต่อสภา ถึง แผนงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยส่วนหนึ่งมี ประเด็นด้านสุขภาพ ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน ปัจจุบัน เรื่องสุขภาพมีค่าใช้จ่ายมูลค่าสูงขึ้นและประชาชนก็อาจจะมีทางเลือกน้อยลง เพราะค่ายาก็ต้องซื้อ เราจะมุ่งเน้นช่วยในเรื่องของความเดือดร้อน ทั้งในเรื่องของความแออัดของโรงพยาบาลภาครัฐ เนื่องจากประชาชนมีรายได้น้อย ต้องการจะลดค่าใช้จ่ายก็ต้องไปที่โรงพยาบาลรัฐ ก็แออัดขึ้น
โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลเอกชน เรื่องเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน รับรู้ค่าใช้จ่ายราคายาก่อนชำระเงิน และไม่จำเป็นจะต้องยอมรับในค่าใช้จ่ายนั้นทันที โดยประชาชนสามารถไปซื้อที่ร้านค้าข้างนอกโรงพยาบาลเอกชนได้ ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนที่เข้ามาร่วมโครงการอยู่พอสมควร
สิ่งที่ทำคือ 2 เรื่อง คือ 1. การเปิดเผยราคายาอย่างชัดเจน โดยผู้ป่วยสามารถทราบราคายาที่ต้องจ่ายล่วงหน้า และมีสิทธิ์เลือกไปซื้อจากร้านขายยาภายนอกโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยมีการประเมินร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขว่า มาตรการนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 32,400 ล้านบาทต่อปี ถือเป็น Quick Big Win
2. การควบคุมต้นทุน ราคายาและเวชภัณฑ์จำเป็น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและป้องกันการตั้งราคาที่เกินความเหมาะสม โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนในหมวดเวชภัณฑ์ได้ถึง 1,100 ล้านบาทต่อปี
ล่าสุดนพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า รมต.พาณิชย์ เริ่มต้นด้วยการลดค่าครองชีพคนไทย ! ด้วยการคุมราคายาและเวชภัณฑ์ของ รพ.เอกชน ประชาชนต้องรู้ราคา และสามารถนำไปซื้อนอก รพ.ได้ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกเพิ่มขึ้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ รพ.เอกชน ต่างๆ จะเกิดการแข่งขันลดราคายาและเวชภัณฑ์ลงแน่นอน เพื่อให้คนไข้ยังคงรับยาต่อที่ รพ.
ด้านหนึ่ง รพ.เอกชนอาจจะกำไรลดลงจากการขายยา แต่! อีกด้าน รพ.เอกชนจะเป็นทางเลือกให้คนเข้าใช้บริการมากขึ้นเนื่องจากค่าบริการยาและเวชภัณฑ์ถูกลง คนชั้นกลางอาจเลือกไปรักษา รพ.เอกชนเพิ่ม เพราะราคายาและเวชภัณฑ์ถูกคิดอย่างเป็นธรรม ไม่แพงเหมือนในอดีตอีกแล้ว เป็นโอกาสให้ รพ.ภาครัฐ ลดความแออัดลงได้ ธนูนัดเดียว ถูกหลายเป้า สุดยอดครับท่านรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาช่วงหนึ่งว่า อีกภาระสำคัญของประชาชน คือ ค่ารักษาพยาบาล และค่ายา ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีทางเลือกจำกัด ทำให้โรงพยาบาลรัฐแออัดมากขึ้น เพราะผู้มีรายได้น้อย มักเลือกไปใช้บริการ ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน 2 ประการสำคัญ ได้แก่
1.การเปิดเผยราคายาอย่างชัดเจน โดยผู้ป่วยสามารถทราบราคายาที่ต้องจ่ายล่วงหน้า และมีสิทธิ์เลือกไปซื้อจากร้านขายยาภายนอกโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยมีการประเมินร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขว่า มาตรการนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 32,400 ล้านบาทต่อปี ถือเป็น Quick Big Win ของนโยบาย
2.การควบคุมราคายาและเวชภัณฑ์จำเป็น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและป้องกันการตั้งราคาที่เกินความเหมาะสม โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนในหมวดเวชภัณฑ์ได้ถึง 1,100 ล้านบาทต่อปี โดยมาตรการทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางกระทรวงพาณิชย์ ในการลดค่าครองชีพ และเพิ่มรายได้ให้ประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น