สำนักข่าวอันตารา, AP และ AFP รายงานว่าเหตุโรงเรียนอัล โคซินี่ อิสลามซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ที่เมืองซิโดอาร์โจ บนเกาะชวาพังถล่มเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (จันทร์ที่ 29 กย.) ขณะนักเรียนกำลังสวดมนต์บ่ายอยู่ภายในหอสวดมนต์ ส่งผลให้เด็กนักเรียนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คนบาดเจ็บ 99 คนและยังติดอยู่ใต้ซากอาคารอีก 65 คน
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งให้ความช่วยเหลือ แต่ติดอุปสรรคตรงที่มีแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่จำนวนมากขวางอยู่ จะใช้เครื่องมือหนักยกออกก็ไม่ได้เพราะเสี่ยงทำให้อาคารที่เหลือยุบตัวลงมาอีก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อนักเรียนที่ติดอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้วิธีสอดสายออกซิเจนและน้ำดื่มให้ไปพลางๆขณะใช้เครื่องมือยกขนาดเล็กค่อยๆยกคอนกรีตและซากปรักหักพัง ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของพ่อแม่และครอบครัวที่มาเฝ้าดูปฎิบัติการกู้ภัย
โฆษกตำรวจท้องถิ่นออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (อังคารที่ 30 กย.) เผยว่าทางการได้ระดมทั้งทหาร, ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายร้อยนายเข้ามาช่วยเหลือตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงกว่าจะดึงนักเรียนออกมาได้ 99 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับบาดเจ็บทั้งหัวแตก, กระดูกหักและหลายรายอาการสาหัส ล่าสุดกำลังใช้ความพยายามช่วยเด็กอีก 65 คนที่ยังติดอยู่ โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชาย ระดับชั้นมัธยม 1-4 อายุระหว่าง 12-17 ปี
ส่วนนักเรียนหญิงซึ่งสวดมนต์อยู่อีกฝั่งของโรงเรียนหนีรอดมาได้ เนื่องจากจุดที่ถล่มอยู่ทางฝั่งนักเรียนชาย
โฆษกตำรวจคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเห็นร่างที่แน่นิ่งของเด็กหลายคนอยุ่ด้านในแต่ตอนนี้ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตก่อนเนื่องจากเวลาผ่านมามากกว่าสิบชั่วโมงแล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนถึงสาเหตุการถล่ม พร้อมเผยว่าโรงเรียนแห่งนี้เป็นอาคารสองชั้น แต่กำลังต่อเติมเพิ่มอีก 2 ชั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต