อุทัยธานีชู “ส้มซ่า–วิหาร 500 ปี” ดึงนักท่องเที่ยว ชม–ชิม–ชอป สร้างรายได้ชุมชน

เวลา 10.00 น.วันที่ 28 กันยายน 2568 บรรดานักท่องเที่ยวแห่ท่องเที่ยววัดดอนกลอย หมู่ที่ 5 ตำบลดอนกลอน อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี โดยการมากราบไหว้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเพื่อเป็นศิริมงคลในการมาเยือนและท่องเที่ยวและถืออากาสทำบุญไปด้วย ความเป็นมาของวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุ 500 กว่าปีมาแล้ว ส่วนหลวงพ่อจูเจ้าอาวาสองค์เก่านั้นถือว่าเป็นเกจิชื่อดังซึ่งชาวจังหวัดอุทัยธานีนั้นรู้จักกันดีซึ่งได้มรณะภาพไปกว่า 100 ปีแล้วโดยบรรดานักท่องเที่ยวได้เข้ากราบไหว้รูปหล่อหลวงจูเพื่อขอพรและโชคลาบกัน พร้อมกับศึกษาเรียนรู้วิหารเก่าแก่ของทางวัด มีอายุ กว่า 500 ปี ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่ในการสวดมนต์ของพระสงฆ์ ปัจจุบันตกอยู่ในสภาพรกร้าง ผุพัง มีต้นโพธิ์ต้นขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุม โดยรากได้ชอนไชไปทั่วผนังของวิหาร จนกลายเป็นภาพที่สวยงามแปลกตา คล้ายภาพศิลปะที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งที่เกิดจากธรรมชาติ สร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับบันทึกภาพไว้เป็นความทรงจำที่ดี ซึ่งวิหารแห่งนี้นั้นคาดว่าอายุกว่า 500 ปี ซึ่งเป็นวิหารที่สร้างมาคู่กับวัดแห่งนี้ในอดีต ส่วนที่เรียกกันว่าวิหารนั้นก็เพราะว่าบริเวณรอบวิหารนั้นจะไม่มีใบเสมาธรรมจักรนั่นเอง โดยบรรยากาศที่วิหารแห่งนี้หากเดินเข้าชมเหมือนมีมนต์ขลังแห่งอดีตแฝงอยู่เลยก็ว่าได้
และที่พลาดไม่ได้หลังจากที่เที่ยววัดกันแล้วต่างก็เข้าไปในสวนส้มซ่า ผลไม้พื้นถิ่นที่บ้านของนายสุนทร สายเพชร วัย 85 ปี บ้านทุ่งใหญ่ ต.ทุ่งพึ่ง อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี มีความเป็นมาที่น่าสนใจก่อนหน้านี้อาชีพทำนาและยังเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน มีอยู่วันหนึ่งได้ไปประชุมที่ว่าการอำเภอ ได้มีคนมาบอกว่า อยากรวยให้ปลูกส้มซ่า ต่อไปราคาจะแพง จึงได้คิดไตร่ตรอง ตัดสินใจปลูกส้มซ่าบริเวณโดยรอบๆบ้าน บนเนื้อที่ 8 ไร่ ปลูกไว้จำนวน 100 กว่าต้น แต่ละต้นให้ผลผลิตแล้ว โดยปลูกกระชายพืชสมุนไพรเป็นพืชแซมระหว่างต้น ปกติส้มซ่า จะให้ผลผลิตและสามารถเก็บผลได้ในราวเดือน มิ.ย.-ก.ย ของทุกปีแต่ปีนี้ฝนดีและมาเร็ว ทำให้ผลผลิตออกเร็ว ในแต่ละปี จะมีพ่อค้ามารับซื้อผลสดถึงบ้านและต้องมาเก็บผลผลิตกันเองหริอสอยกันเอง โดยจะขายให้ผลผละ 1 บาทเท่านั้น แต่พ่อค้าจะนำไปขายอีกทอดหนึ่ง ด้วยการนำไปมัดรวมกันเป็นพวงๆ ละ 5 ผล ขายในราคา 20 บาท ในแต่ละปี จะขายผลผลิตส้มซ่า ได้เป็นเงิน 50,000 บาท ซึ่งมีรายได้ดีกว่าทำนาข้าวเสียอีก เมื่อก่อนช่วงปลูกใหม่ๆ มีแต่คนหัวเราะเยาะ ปลูกอะไรไม่ปลูกมาปลูกส้มซ่า แต่สุดท้ายสามารถลบคำสบประมาทได้ เพราะมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จากนั้นนักท่องเที่ยวทั้งหมดได้ร่วมกันสอยผลส้มซ่า เพื่อซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน พร้อมกับลิ้มรสส้มซ่า กันอย่างสุดฟิน สร้างความเพลิดเพลิน สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยว ต่างเป็นที่ชื่นชอบ เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังได้สนุกกับการสอยส้มซ่า อีกด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีและจากการสอบถามนักท่องเที่ยวที่มาบอกว่าจะมาเยือนอีกอย่างแน่นอน

ข่าวที่น่าสนใจ

มาถึง จุดท่องเที่ยวสุดท้าย เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหอมสะแกกรัง ม.ที่ 3 บ้านดอนกลอย ต.ดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี โดยการต้อนรับโดยมีของทานเล่นอย่างเช่นม้าฮ้อซึ่งเป็นของโบราณแต่ยังคงสืบสานมาจนถึงปัจจุบันนี้จากรุ่นพ่อแม่ ซึ่งใส้ของม้าฮ่อนั้นจะกวนถั่วบดผสมน้ำตาลปีบและมะพร้าวขูด จากนั้นก็จะวางบนส้มซ่าที่ผ่ากลางลูกประดับด้วยผิวของส้มซ่าและพริกสดใสและใส่ในกระทงใบตองซึ่งรสชาตินั้นลงตัวอย่างมากแถมยังมีการแสดงเพลงพื้นบ้านขอฝนให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกและรำไปด้วยกันอีกด้วย แถมยังมีการสาธิตการทำยาดมซ้มซ่า โดยทางประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือนางสาวมธูรส หุ่นหล่อ เป็นผู้ที่มาทำพร้อมกับให้นักท่องเที่ยวนั้นได้มีส่วนร่วมโดยการมาช่วยกันทำอีกด้วยซึ่งก็สนุกสนานกันไปแถมยังได้ความรู้กลับไปอีกด้วย
ดร.นิศาชล โทแก้ว อาจารย์ภาควิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม.ซึ่งเป็นผุ้ส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพร่วมกับคนในชุมชนได้เปิดเผยว่าตำบลดินกลอยแห่งนี้มีดีหลายอย่างทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม. จึงได้มาสนับสนุนให้กล่ยเป็นแหล่งเที่ยวที่มีความสำคัญมีทั้งวัดที่เก่าแก่แถมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนอีกด้วยและจะสานต่อโครงการนี้ให้เป็นที่รู้จักต่อไปอีกด้วยจึงได้ออกแบบเพื่อตอบโจทย์เรื่องสุขภาพ ประกอบด้วย จิตใจ อารมณ์ สังคมและจินตนาการ ให้ได้ ดังนั้นจุดท่องเที่ยวจึงมีหลากหลายอย่างที่เห็น

ขณะเดียวกันทาง น.ส.อนุ สุราช อายุ 46 ปี เดินทางมาจากมหาสารคามเปิดเผยว่า ได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวถือเป็นชุมชนที่น่าสนใจมาก ได้ไปเที่ยวที่วัด ที่มีความเก่าแก่ ชมโบราณสถานที่มีความสำคัญกับท้องถิ่น อายุ 100 ปี ร่วมทำบุญ กราบไหว้ขอพรหลวงห่อจู ได้ท่องเที่ยวสวนส้มซ่า ที่หาชมได้ยาก เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ได้เก็บผลผลิตด้วยตนเอง และจุดสุดท้ายเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหอมสะแกกรัง ที่ได้นำเอาเปลือกส้มซ่า มาทำผลิตภัณฑ์หลายตัว เป็นการนำวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นที่ชุมชนมาต่อยอด สร้างรายได้ ซึ่งการมาเที่ยวครั้งนี้ยอบรับว่าประทับใจมากและแน่นอนจะมาอีกอย่างแน่นอนเพราะติดใจในมนต์ขลังของเมืองเล็กๆแต่แฝงไว้ด้วยวัฒนธรรมและของดีมากมายนั่นเอง
*หมายเหตุคิวภาพมี 3 ไฟล์**ไฟล์ที่ 1ภาพประกอบ นักท่องเที่ยวมาวัดดอยกลอยเพื่อมาทำบุญและไหว้หลวงพ่อจูเกจิชื่อดังที่เป็นรูปเหมือนและเดินชมวิหารเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี-นักท่องเที่ยวเข้าสวนซ้มซ่าของสวนผู้ใหญ่ลีและชิมน้ำส้มซ่าสวยส้มซ่าจากต้นกันเองและคั้นน้ำส้มซ่า-ไฟล์ที่ 2เสียงทางนส.อนุ สุราช อายุ 46 ปี เดินทางมาจากมหาสารคาม-ไฟล์ที่ 3เสียงดร.นิศาชล โทแก้ว อาจารย์ภาควิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม.
นันทศักดิ์ วัฒนพานิชผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.อุทัยธานี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'ไอศกรีม' หลากสีรูปทรงเตะตา ในงานไอศกรีมแห่งปท.จีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'พืชพรรณไทย' สวยเด่น ในงานดอกไม้คุนหมิง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) มหกรรมวัฒนธรรมตุนหวง หนุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
รวบ รปภ.ห้างดังหาดใหญ่ ค้าสิ่งต้องห้าม ยึดของกลาง-ทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 2 ล้าน
ลุงวัย 68 ถูกกระบะพุ่งชนภายในวัด ขาขาดทั้ง 2 ข้าง ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.
ณพล บริบูรณ์ ดูงานแก้ปัญหาขยะแบบยั่งยืน นิคมอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน Shenyang Laohuchong

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​