พระก็ต้องฝึก กุยบุรีจัดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เน้นกระจายความรู้ให้หลายหน่วยงานเพื่อนำไปใช้ได้จริง

กดติดตาม TOP NEWS

วันที่ 26 กันยายน 68 นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอกุยบุรี เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 70 พรรษา ณ หอประชุมสงฆ์วัดกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ โดยมีนายแพทย์ ทรงวุฒิ ชนะอุดมสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกุยบุรี เป็นผู้กล่าวรายงาน มีนายมานพ ตั้งบูรพาจิตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ ประธานชมรมคนรักกุยบุรี พร้อมด้วยส่วนราชการต่างๆ อาทิ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ตำรวจ ท้องถิ่น และมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรีร่วมในพิธีรวมกว่า 100 คน นอกจากนี้ยังมี พระราชรัตนวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดประจวบ เจ้าอาวาสวัดกุยบุรีมาร่วมในพิธีเปิด
สำหรับการอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและการใช้เครื่องช็อกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 70พรรษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์ประธานมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ซึ่งดำเนินงานโดยมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีโรงพยาบาลกุยบุรีจัดการอบรม และได้รับสนับสนุนสถานที่การอบรมจากวัดกุยบุรี

นายทรงวุฒิ ชนะอุดมสุข นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกุยบุรีโรงพยาบาลกุยบุรี ได้ให้การสนับสนุนจัดทำโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 70 พรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 70 พรรษา และเพื่อดำเนินการตามแนวทางพระราชดำรัสขององค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี องค์ประธาน มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พระองค์อยากให้ประชาชนชาวไทยมีความรู้ อย่างถูกต้องในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานหรือ ซีพีอาร์และการใช้เครื่องช็อกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ เออีดี,เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนมีจิตอาสา มีทักษะและความ มั่นใจในการทำซีพีอาร์และการใช้เครื่อง เออีดี ช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุหมดสติ ไม่หายใจ และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ให้ทันเวลาภายใน 4 นาทีจะฟื้นคืนชีพกลับมาด้วยสภาวะสมองไม่ได้รับการเสียหายจากการขาดออกซิเจน สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ต่อไป,เพื่อสร้างเสริมคุณธรรมและสร้างเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของคนไทย
โดยกิจกรรมการอบรมในวันนี้ประกอบด้วย การให้ความรู้ เรื่อง การปฐมพยาบาลในผู้ใหญ่ เด็กโต เด็กทารก ที่หมดสติและไม่หายใจ การใช้เครื่องช็อกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ เออีดี และการช่วยเหลือผู้ที่สำลักอาหาร และที่ไฮไลท์ก็คือ ทางวัดกุยบุรีได้ส่งพระสงฆ์เข้ารับการอบรมด้วยจำนวนหนึ่ง เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานควรจะทำเป็นในทุกวงการ เพื่อช่วยชีวิตคนเจ็บป่วยได้ทันท่วงที

ทางด้านนายอร่าม ญาณแก้ว ประธานในการเปิดงานกล่าวว่า การอบรมครั้งนี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีช่วยสร้างเสริมความปลอดภัยในการดำรงชีวิตประจำวันให้ประชาชนใน พื้นที่อำเภอกุยบุรี การฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือ CPR และการใช้เครื่องช็อกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติหรือ เออีดี นับเป็นเรื่องที่สำคัญในหมวดการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้ เพราะเป็นวิธีช่วยชีวิตของผู้ที่ประสบเหตุหมดสติ หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน ให้ทันเวลาและต้องช่วยด้วยความถูกต้อง การที่ประชาชนได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว จะส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในบทบาทที่สำคัญ นั่นคือ ลดภาวะการสูญเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในการดำรงชีวิตร่วมกันในสังคม

พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​