บ้านนักรบซักอบรีด ยังไม่ซ่อม หลังถูกลูกปืนใหญ่ตกใส่ เชื่อมีคนชี้เป้า รอปะทะรอบ 2 ค่อยซ่อม ขณะที่ชาวบ้านเก็บเสื้อผ้าใส่รถ เตรียมหนีทุกเวลา

บ้านนักรบซักอบรีด ยังไม่ซ่อม หลังถูกลูกปืนใหญ่ตกใส่ เชื่อมีคนชี้เป้า รอปะทะรอบ 2 ค่อยซ่อม ขณะที่ชาวบ้านเก็บเสื้อผ้าใส่รถ เตรียมหนีทุกเวลา

 

วันที่ 26 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากหมู่บ้านภูมิชรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า บรรยากาศในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงเต็มไปด้วยความหวาดระแวงของชาวบ้าน หลังจากเกิดเหตุทหารกัมพูชาแอบลอบยิงปืนใส่แนวรั้วลวดหนามบนภูผี ทางทิศตะวันออกของปราสาทเขาพระวิหาร เมื่อสองวันก่อน ส่งผลให้ชาวบ้านจำนวนมากต้องอพยพหนีตายออกจากพื้นที่ทันที แม้ล่าสุดเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ความสงบ ไม่มีเสียงปืนดังขึ้นมาอีก แต่ทุกคนยังคงใช้ชีวิตด้วยความไม่มั่นใจ ต้องคอยเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นใส่กระเป๋า วางไว้ในรถยนต์ เตรียมพร้อมอพยพตลอดเวลา

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เช่นเดียวกับ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบหนัก คือบ้าน “นักรบ ซักอบรีด” ที่เปิดบริการซักอบรีดเครื่องแบบให้กับทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าของบ้านคือ นางรุ่งทิพย์ เสนาพันธ์ อายุ 43 ปี ซึ่งบ้านถูกลูกปืนใหญ่ตกใส่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ล่าสุดครอบครัวได้รับเงินเยียวยา 49,500 บาทเมื่อ 5 วันก่อน แต่ยังไม่กล้าลงมือซ่อมแซมบ้าน โดยให้เหตุผลว่าหากสถานการณ์กลับมาปะทะกันอีก ลูกปืนใหญ่อาจตกลงซ้ำที่บ้านอีกแน่นอน เพราะวิถีกระสุนมาตกทางเดิมทุกครั้ง ตั้งแต่การสู้รบปี 2554 จนถึงปัจจุบัน

นางรุ่งทิพย์เล่าว่า “ตอนลูกปืนตกบ้านตน ขณะกำลังซักผ้าอยู่ ได้ยินเสียงปืนเล็กดังลั่นแนวชายแดน ก็เลยรีบพาลูกหลานหนีไปนอนที่บ้านญาติในตัวอำเภอกันทรลักษ์ก่อน พอกลับมาก็ยังไม่สบายใจ กลัวว่าถ้ามีการยิงปะทะกันอีก กระสุนคงมาตกที่บ้านตนเหมือนเดิม ก็เลยยังไม่ซ่อม รอให้สถานการณ์จบก่อน ถ้าบ้านพังอีกจะได้ซ่อมทีเดียว” ซึ่งจากการช่างที่เข้ามาประเมินความเสียหายจริงได้ตีราคาเกิน 100,000 บาท แตกต่างจากวงเงินเยียวยาที่ได้รับ จึงยิ่งทำให้เจ้าของบ้านเลือกจะชะลอการซ่อมรอเหตุการณ์สงบ

 

 

 

 

 

 

บรรยากาศโดยรอบหมู่บ้านภูมิชรอล ผู้สื่อข่าวพบว่าหลายครอบครัวได้รวมตัวอยู่ในบ้านญาติพี่น้องเพื่อความปลอดภัย จัดเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของใส่รถยนต์จอดรอ หากเกิดเหตุยิงปะทะจะสามารถอพยพออกไปได้ทันที โดยหลายครอบครัวเล่าว่า ตอนนี้ไม่สามารถทำมาหากินหรือประกอบอาชีพได้เต็มที่ เพราะต่างก็อยู่ในสภาพ “รอหนี”

ถนนในหมู่บ้านที่เคยคึกคักกลับเงียบเหงา ปริมาณรถที่สัญจรผ่านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้าแทบไม่เหลือผู้คนมาอุดหนุน หลายครัวเรือนปิดบ้านหนีไปแล้ว ส่วนที่เหลือก็อยู่ในสภาพพร้อมอพยพทันที

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว จิรภัทร หมายสุข ผู้สื่อข่าว topnews ทั่วไทย จ.ศรีสะเกษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กองทัพภาคที่ 3 จัดกิจกรรม เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย
"นายกฯอนุทิน" ขอใช้เวลาสุดสัปดาห์นี้ คิดใครเหมาะสมนั่งเลขาฯ มท.1 ย้ำสื่อพักผ่อนเพียงพอ หลังโดนแซวภารกิจเยอะ
จับแล้วหัวหน้าแก๊งค์ลักหม้อแปลงไฟหลังกลัวตายถูกตั้งรางวัลนำจับชาวบ้านงง กำนันคนดัง โพสต์ คนทำมาหากินผิดพลาดกันได้
ดร.ยลดา ร่วมยกย่องตำรวจภูธรภาค 3 งานเกษียณอายุราชการสุดอบอุ่น
"เลขาธิการฯอ้อย" ลงพื้นที่อุดร–เลย เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมอ้อย-น้ำตาลไทยสู่ความยั่งยืน
“เดอะพาร์ค เขาหลัก” พังงา งบ 79 ล้าน กลายเป็นโครงการร้าง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​