วันที่ 23 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สารวัตร ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน ลงพื้นที่ตรวจสอบและสืบสวน หลังได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการนำเที่ยวในพื้นที่ว่า มีชาวต่างชาติลักลอบประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต และขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไม่มีป้ายทะเบียนด้วยความเร็วสูง สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) สัญชาติเมียนมา ขณะกำลังนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 รายเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ท่องเที่ยวบนเกาะพะงัน โดยนายเอไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์และไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต” ต่อมา นายโร (นามสมมติ) สัญชาติเยอรมัน ได้เดินทางมาแสดงตัวว่าเป็นนายจ้างของนายเอ และยอมรับว่าได้ว่าจ้างให้เป็นมัคคุเทศก์โดยจ่ายค่าจ้างรายวัน รวมถึงมีค่าทิปพิเศษ นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าตนเป็นเจ้าของธุรกิจนำเที่ยวที่ให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ คิดค่าบริการนักท่องเที่ยวรายละ 2,000 บาทต่อชั่วโมง และดำเนินกิจการมาแล้วประมาณ 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเอกสารของบริษัท เจ้าหน้าที่พบว่ามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เกาะสมุย แต่ไม่มีการขออนุญาตเปิดสาขาในพื้นที่เกาะพะงันแต่อย่างใด จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อนายโรมัน ฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิที่ได้รับอนุญาต และเป็นนายจ้างจ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาต” พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษกรรมการบริษัทในความผิดฐาน “ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่มีใบอนุญาตสาขา” เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้อง มูลค่ารวมกว่าล้านบาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป การจับกุมในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เน้นกวดขันพฤติกรรมของชาวต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยการดำเนินคดีในครั้งนี้เริ่มต้นจากการร้องเรียนของประชาชนผ่าน สายด่วน 1155 ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว.
เชิดชาย ทวีเมือง ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.สุราษฎร์ธานี
