No data was found

แฉกลุ่มจิตอาสาเมืองคอนคิดค่าบรรทุกร่างเหยื่อโควิดซ้ำเติมผู้สูญเสีย

กดติดตาม TOP NEWS

วันที่ 16 ต.ค. 2564 พระมหาบวร ปวรธมฺโม เจ้าอาวาสวัดบุญนารอบ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์เฟซบุ๊ค “พระมหาบวร ปวรธมฺโม”ว่า เมืองคอน “”กรรมคนคอน” รถจิตอาสา ทุกศพโควิดฟรี มีไหมครับ เอาแบบที่แล้วแต่เจ้าภาพจะทำบุญ ยุคนี้ต้องช่วยกัน ไม่ใช่แสวงหา ผลประโยชน์บนความทุกข์ของชาวบ้าน”และโพสต์ภาพกองเท้ากระดูกหลังฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิดที่เสียชีวิตวันเดียว 3 ราย # เว้นเสียแต่ ต้นทุน บุญกุศลทรัพย์สมบติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน ร่างของตน เขายังเอา ไปเผาไฟ จงอยู่อย่างมีสติทุกเมื่อเถิด..และต่อมาได้โพสต์ภาพที่ช่างกำลังเปลี่ยนหัวเผาเมรุเผาศพวัดบุญนารอบ และข้อความว่า “ฌาปนกิจสงเคราะห์โควิด 19 วัดบุญนารอบ ตามที่ทางวัดได้ให้บริการฌาปนกิจมาตลอดเป็นระยะเวลายาวนานตลอด 4 ปี (ตั้งแต่ปี 60) ที่ไม่ได้สับเปลี่ยนหัวเผา (ปกติ 2 ปีสลับหัวเผาครั้ง) เพราะสถานการณ์โควิด วันนี้นายช่างมาสลับหัวเผาและปรับระบบให้สมบูรณ์พร้อมบริการ ทางวัดใช้จ่ายในการบูรณะในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 30,000 บาท ขออนุโมทนาบุญทุก ๆ ท่าน มา ณ โอกาสนี้ ขอให้ทุก ๆ ท่าน มีความสุข ความเจริญนะยศและลาภ หาบไป มิได้แน่” โดยมีผู้ใจบุญทยอยโอนเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหัวเผาเตาเผาศพวัดบุญนารอบอย่างต่อเนื่อง


พระมหาบวร ปวรธมฺโม  กล่าวว่า ทางวัดได้จัดสร้างเมรุฌาปนกิจศพแบบไร้มลพิษมานาน 4 ปี ตั้งแต่ปี 2560 โดยได้ทำการฌาปนกิจศพหรือ “เผาศพ”ผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้หัวเผาเสื่อมคุณภาพ ซึ่งตามปกติจะต้องเปลี่ยนหัวเผา 2 ปี/ครั้ง แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทางวัดได้รับเผาศพผู้ป่วยโควิดที่เสียชีวิตฟรีต่อเนื่องมาแล้วเกือบ 100 ศพจึงไม่ได้เปลี่ยนหัวเผา อย่างไรก็ตามเมื่อ 2-3 วันก่อนหลังจากทำการเผปาศพผู้ป่วยโควิดวัดเดียว 3 ศพทางช่างก็เข้ามาทำการเปลี่ยนหัวเผาให้ใหม่ทางวัดต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 30,000 บาท โดยมีญาติโยมผู้ใจบุญช่วยกันบริจาคเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหัวเผาในครั้งนี้ อาตมาขอให้บุญกุศลผลบุญจงสะท้อนย้อนกลับไปถึงผู้ใจบุญทุกท่านให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป “สำหรับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตต่อเนื่อง ทางวัดได้ให้บริการจัดสวดพระอภิธารรมศพให้ 1 เตียง อย่างน้อยเพื่อให้ผู้เสียชีวิตมี “โอกาสได้พบพระ พบธรรมะ ก่อนเข้าสู่การฌาปนกิจหรือเผา ในระยะหลัง ๆ มีผู้ป่วยเสียชีวิตนำมาฌาปนกิจที่วัดเพิ่มมากขึ้นมีทั้งคนร่ำรวย ผู้ที่ยากจน ยากไร้แร้นแค้น หลายครั้งที่อาตมาเห็นภาพความทุถกขเวทนาของครอบครัวยากไร้ที่สูญเสีย พ่อแม่ ปู่ย่าหรือคนที่ใกล้ชิดในครอบครัว บางครอบครัวเมื่อบรรทุกศพมาถึงวัดบอกกว่ายังไม่ได้รับประทานอาหารเลย และต้องวิ่งหยิบยืมเงินนอกระบบมาจ่ายค่าบรรทุกศพจาก รพ.มหาราชมายังวัด 3,500-4,000 บาท คนที่ยากจนเขาขาดแคลนไปเสียทุกอย่าง บรรดาผู้ให้บริการที่อ้างมูลนิธิ โน้น มูลนิธิ นี้ กลุ่มอาสา ฯ แต่กลับมาคิดเงินค่าบรรทุกศพในอัตราที่แพงมาก แค่ไม่ถึง 10 กม. อย่างต่ำ 3,500 บาท อาตมาคิดว่านอกจากจะไม่ได้ช่วยเหลือเยียวผู้คนที่กำลังประสบเคราะห์กรรม ประสบกับคงวามสูญเสียในชีวิตแบบนี้ มันไม่ดีเลย เป็นการซ้ำเติมผู้ที่ยากจน ยากไร้ให้เดือดร้อนเพิ่มมากขึ้น หลังบริการฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นอาตมาได้บริจาคเงินช่วยเหลือไปอีกจำนวนหนึ่ง และเมื่อคิดถึงเรื่องทมี่เกิดขึ้นอาตมานอนไม่หลับเลย จึงโพสต์ระบายในเฟซบุ๊คดังกล่าว ล่าสุดมีผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งมาให้คำปรึกษาเรื่องการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ยากไร้ หากมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินสนับสนุนเข้ามาอาตมาจะจัดรถบรรทุกศพเหยื่อโควิดปรีด้วย พระมหาบวร กล่าวย้ำ


ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง กล่าววว่า หลังพ่อเสียชีวิตเพราะโรคโควิด ตนและญาติ ๆ ได้ไปติดต่อขอรับศพจาก รพ.มหาราช เจ้าหน้าที่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อรถบรรทุกศพ เมื่อติดต่อไปเขาไม่ได้แจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายในการบรรทุกศพจาก รพ.มหาราชไปยังวัดบุญนารอบ (จำปาขอม) ซึ่งตนและญาติ ๆ คิดว่าเป็นยการบริการฟรีเพราะรถก็ติดตราหน่วยกู้ภัยชื่อดัง แต่ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ประจำรถได้แจ้งให้ทราบว่ามีค่าบริการบรรทุกศพ 3,500 บาทตามทำเนียม ตนถึงกับพูดอะไรไม่ออก เมื่อบรรทุกศพมาถึงวัดต้องประสานรวบรวมเงินจากญาติ ๆ และหยิบยืมเงินนอกระบบมาจ่ายค่าบรรทุกศพ ครอบครัวเราสูญเสีย อยู่ในความเศร้าโศกเสียใจอยู่แล้ว ตองมาเสียความรู้สึกกับกลุ่มที่อ้างว่าเป็นกลุ่ม “จิตอาสา” แบบนี้


ในขณะที่ญาติผู้ป่วยอีกรายกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ใน รพ.มหาราช เขาคงร่วมมือกับกลุ่มรถจิตอาสา ฯที่อ้างมูลนิธิกู้ภัยต่าง ๆ บางครั้งก็เป็นรถที่ติดตรากู้ภัยมูลนิธิฯชัดเจน แต่บางครั้งก็เป็นรถกระบะทั่ว ๆ ไปนำมาบรรทุกศพออกจาก รพ.มหาราช โดยที่ญาติผู้เสียชีวิตทุกรายเข้าใจว่าเป็นการบริการฟรี หรือแล้วแต่จะร่วมทำบุญสนับสนุนเป็นค่าน้ำมันตามสมแต่ละบริจาค แต่ระหว่างทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทราบตามระยะทางเริ่มต้นที่ 3,500 บาท และหากอยู่อำเภอรอบนอกไกล ๆ ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงถึง 6,500-8,000 บาทเลยทีเดียว เป็นวิธีการมัดมือชกซ้ำเติมกันชัด เท่าที่ทราบมีรถกู้ภัย หรือรถของอาสากู้ภัย รวมทั้งรถของผู้ใจบุญจำนวนมากที่เขาบริการฟรี แต่ไม่สามารถเข้ามาให้บริหารได้ใน รพ.มหาราช จึงอยากให้ทางราชการจัดรถบริการบรรทุกศพให้ฟรี หรือเปิดโอกาสให้รถที่เขาเป็นจิตอาสา ต้องการทำบุญ ต้องการช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากอย่างแท้จริงเข้ามาบรรทุกศพแทนกลุ่มจิตอาสาจอมปลอมทั้งหลายที่เรียกค่าบรรทุกศพสูงแบบนี้.

ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุชาติ" เปิดบ้านชื่นมื่น ชาวชลบุรีแห่ยินดี รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ลั่นมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน สถาบันหลักชาติ
รอง ผอ.ศรชล.จว.สป. เป็นประธานจัดกิจกรรม "วันอาภากร"
ยายวัย 82 โชคดีหวิดดับ หลังมายืนรดน้ำต้นไม้
ผู้กำกับพัทยาจัดพิธีบวงสรวง เสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
สพป.ขอนแก่น สั่งเด้ง "ผอ." ซื้อบริการเด็ก 12 ปี ตั้งคกก.สอบ เข้าข่ายผิดวินิยร้ายแรง
"โฆษกศธ." ย้ำนโยบายลดภาระเปิดเทอม ผ่อนผัน ยกเว้นแต่งชุดนร.ไม่ใช่ยกเลิก
"ทนายด่าง" เตรียมนำทีมครอบครัว ทวงถามรพ.ราชทัณฑ์ ขอเอกสารก่อน "บุ้ง" เสียชีวิต 5 วัน ยังคาใจใส่ท่อผิดจุด
เตรียมพิธีรับมอบ "Golden Boy–สตรีพนมมือ" หวนคืนแผ่นดินไทย 21 พ.ค.นี้
"นักโบราณคดี" ยืนยัน "โกลเด้นบอย" ถูกค้นพบที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นหลักฐานใหม่ พลิกหน้าประวัติศาสตร์
คลิปนี้ชัดมาก “แม่น้องไนซ์” พูดเต็มปากเต็มคำ เชื่อมจิตมีในพระไตรปิฎก โซเชียลจับตาส่อผิด พ.ร.บ.คอมพ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น