โฆษกกองทัพบก ตอกหน้ากัมพูชาหยุดบิดเบือน ชี้ชัดข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42–43 เป็นไปตามกรอบJBC ม็อบเขมรจงใจรุกล้ำ ทำผิด MOU 43

โฆษกกองทัพบก ตอกหน้ากัมพูชาหยุดบิดเบือน ชี้ชัดข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42–43 เป็นไปตามกรอบJBC ม็อบเขมรจงใจรุกล้ำ ทำผิด MOU 43

 

โฆษกกองทัพบก ตอกหน้ากัมพูชาหยุดบิดเบือน ชี้ชัดข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42–43 เป็นไปตามกรอบJBC ม็อบเขมรจงใจรุกล้ำ ทำผิด MOU 43

 

ข่าวที่น่าสนใจ

21 ก.ย.2568 พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์ตอบโต้ข้อมูลของเพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Army: Update โดยอ้างว่าคณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน นายลาย เซียงลี ที่ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านเปรย์จัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 เป็นเพียงแบบร่างแสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งพิกัดหลักเขตแดนของบันทึก มิใช่แผนที่หรือเอกสารที่ใช้ยืนยันเส้นเขตแดนแต่อย่างใด

โดยพลตรีวินธัย ชี้แจงว่าจากการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวพบว่า เป็นข้อมูลจากเอกสารบันทึกผลการสำรวจร่วมไทย–กัมพูชา ในการค้นหาสภาพและที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 เอกสารลงนามโดยพันเอกชาคร บุญภักดี ผู้อำนวยการกองแผนและโครงการ กรมแผนที่ทหาร ฝ่ายไทย และนายลาย เซียงลี ผู้อำนวยการกองเทคนิคและการสำรวจฯ ฝ่ายกัมพูชา โดยบันทึกฉบับนี้จัดทำขึ้น ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 มีทั้งฉบับภาษาไทย กัมพูชา และภาษาอังกฤษ เป็นเอกสารที่บันทึกขั้นตอนการค้นหาที่ตั้งที่ถูกต้องของหลักเขตแดนในภูมิประเทศ

ซึ่งหากดูจากเอกสารบันทึกประชุมฯ ดังกล่าวใน Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” แล้วนั้นพบว่า โดยเนื้อหาหลักๆ จะเป็นเพียงการนำพิกัดหลักเขตแดนที่ได้ในเอกสาร ไปทำภาพจำลองเส้นเขตแดนบนแผนที่แบบไม่เป็นทางการ เพื่อความเข้าใจในเบื้องต้น ด้วยการลากเส้นเชื่อมโยงระหว่างจุดพิกัดต่างๆ ที่ได้มา ให้ปรากฏเห็นเป็นเส้นจำลองให้เห็นเป็นภาพคร่าวๆ พอเป็นสังเขป ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อทราบพิกัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์แล้ว ก็จะสามารถพล็อตพิกัดลงบนแผนที่ที่มีในท้องตลาดทั่วไปได้ จากพิกัดหนึ่งไปยังพิกัดหนึ่ง ก็จะสามารถมองเห็นภาพเส้นจำลอง หรืออาจเป็นเส้นสมมติที่เกิดขึ้นมาได้บนแผนที่ จึงไม่ใช่เรื่องบิดเบือนอะไรอย่างที่กล่าวหา อีกทั้งข้อมูลในเพจไม่ได้มีระบุยืนยันเป็นเส้นเขตแดน เพราะในระบบที่เป็นทางการเรื่องเส้นเขตแดนนั้น จะอยู่ในกลไกของJBC แต่สิ่งสำคัญที่ได้จากการดำเนินการสำรวจหลักเขตในอดีตที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่แสดงได้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายไทยได้ยึดหลักการทำงานตามกรอบของ JBC และข้อตกลง MOU 43 เสมอมา

 

พลตรีวินธัย กล่าวอีกว่า จากที่กัมพูชากล่าวว่า “พื้นที่บ้านเปรย์จัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนเลขที่ 42 และ 43 เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงกันเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนในพื้นที่จริง” นั้น คำถามคือแล้วประชาชนกัมพูชาเข้าไปรุกล้ำดินแดนของประเทศไทยไปไกลลึกขนาดนั้นได้อย่างไร จึงยิ่งชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลง MOU 43 มาตลอดที่ผ่านมา เพราะในข้อตกลงระบุไม่ให้มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ในบริเวณที่ยังไม่สามารถตกลงเรื่องเขตแดนได้

โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ฝ่ายไทยปฏิบัติตามกลไก JBC และ MOU43 มาโดยตลอด จึงไม่จำเป็นที่ฝ่ายกัมพูชาจะออกมาเรียกร้องให้ไทยดำเนินการในเรื่องนี้ สิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาควรแก้ไขคือ หยุดขยายชุมชนรุกล้ำดินแดนไทยซึ่งถือเป็นการละเมิด MOU 2000 และแจ้งให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้ประกาศไว้ เหมาะสมกว่าที่จะมาสร้างเรื่องบิดเบือนความจริง รวมถึงการปลุกระดมจัดฉากให้เด็ก ผู้หญิง และพระสงฆ์ออกมาประท้วงรับหน้าแทน ส่งผลให้ความขัดแย้งร้าวลึกขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ จึงเป็นฝ่ายกัมพูชาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กิจกรรมการประกวด TO BE NUMBER ONE DANCERCISE ระดับจังหวัด “TO BE NUMBER ONE DANCERCISE NSN 2025 ครั้งที่ 2”
จับแล้ว!!! สภ.เมืองเชียงใหม่ ติดตามตามวัยรุ่นพ่นสีสเปรย์ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และ ให้ผู้ก่อเหตุทาสีปรับสภาพดังเดิม
เปิดโครงการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย “บุญทอดเทียนโฮม” ประจำปี 2568 ที่แม่เปิน
"เพจดัง" เผยภาพ "แก๊งแครอทเขมร" พร้อมชาวบ้าน เข้าพื้นที่ป่วนบ้านหนองจาน
นครหัวหิน จัดระเบียบคนเร่ร่อน ป้องกันอาชญากรรม สร้างภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว
ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พร้อมคณะร่วมประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 46

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​