สำนักข่าวซินหัวและ AFP รายงานว่าหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้ (อังคารที่ 16 กย.) ระบุว่าจีนรู้สึกไม่พอใจและขอคัดค้านอย่างรุนแรง หลังมีการเปิดผยว่าสหรัฐได้นำระบบขีปนาวุธไทฟอน ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางมาไว้ที่ญี่ปุ่นภายใต้ปฏิบัติการซ้อมรบร่วม “เรสโซลุท ดราก้อน” (Resolute Dragon) ของสหรัฐและญี่ปุ่น ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-25 กันยายน
ทั้งนี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเรียกร้องให้สหรัฐและญี่ปุ่นเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไทฟอนออกจากญี่ปุ่นโดยทันที พร้อมตำหนิว่าสหรัฐและญี่ปุ่นดึงดันที่จะเคลื่อนระบบขีปนาวุธดังกล่าวมาไว้ที่ญี่ปุ่นโดยไม่สนใจความวิตกของจีน
ด้านกองกำลังป้องกันญ๊่ปุ่นออมายืนยันว่าขีปนาวุธไทฟอนได้ถูกนำมาไว้ที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกจริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบร่วม อย่างไรก็ตามจะไม่มีการยิงขีปนาวุธ
พันเอกเวด เจอร์มันน์ ผู้บัญชาการทหารอากาศสหรัฐเปิดเผยกับนักข่าวที่ฐานทัพอากาศที่เมืองอิวาคุนิ ว่าระบบขีปนาวุธไทฟอนซึ่งผลิตในสหรัฐได้ถูกดัดแปลงมาจากขีปนาวุธ SM-6 และขีปนาวุธร่อนโทมาฮอว์ก เพื่อสำหรับใช้ยิงจากภาคพื้นดิน และว่าขีปนาวุธระบบนี้ใช้รถบรรทุกและรถเทรลเลอร์ ทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่ที่สมบุกสมบันและยากลำบาก
ขณะที่โฆษกกองกำลังป้องกันญ๊่ปุ่นกล่าวว่าญี่ปุ่นหวังยกระดับระบบสกัดการโจมตีเนื่องจากความมั่นคงญี่ปุ่นอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามหลิน เจี้ยนกล่าวว่าการที่สหรัฐเคลื่อนขีปนาวุธไทฟอนมาไว้ในภูมิภาคเอเชียจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแข่งขันการสะสมอาวุธ รวมทั้งการเผชิญหน้า ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงในภูมิภาค
สหรัฐเคยนำขีปนาวุธไทฟอนมาที่ฟิลิปปินส์เมื่อปีที่แล้ว (2567) สำหรับปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับฟิลิปปินส์ และเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ประกาศว่ามีแผนจะซื้อระบบขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อปกป้องน่านน้ำ ทำให้จีนไม่พอใจอย่างรุนแรง