ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนา ม.ราชภัฏศรีสะเกษ ระบุ ประเทศไทยยังไม่ควรรีบเปิดด่านช่องสะงำ เหตุประชาชนชายแดนยังหวั่นใจเรื่องความมั่นคง

ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ระบุ ประเทศไทยยังไม่ควรรีบเปิดด่านช่องสะงำ เหตุประชาชนชายแดนยังหวั่นใจเรื่องความมั่นคง ชี้ต้องดำเนินการตามข้อตกลงไทย–กัมพูชาให้สัมฤทธิ์ผลครบทั้ง 5 ข้อ โดยเฉพาะการถอนอาวุธ–กู้ทุ่นระเบิด

 

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประจวบ จันทร์หมื่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะประเด็นการเปิด–ปิดด่านถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า ประเทศไทยยังไม่ควรเร่งเปิดด่านในช่วงนี้ จำเป็นต้องให้กัมพูชา ปฏิบัติตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทย–กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นครบถ้วนก่อน โดยมี 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน 2.การเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิด 3. การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ 4. การจัดการพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน และ5. การผ่อนปรนการผ่านแดนและขนส่งสินค้า  ซึ่งต้องให้สี่ข้อแรกสัมฤทธิ์ผลก่อน จึงค่อยมาพิจารณาข้อสุดท้าย คือเรื่องการผ่อนปรนการขนส่งสินค้าและการเปิดด่าน การข้ามขั้นตอนอาจสร้างความไม่มั่นใจและความเสี่ยงด้านความมั่นคงต่อประชาชนในพื้นที่

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประจวบ จันทร์หมื่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา กล่าวต่อไปว่า จากการลงพื้นที่สอบถามความเห็นชาวบ้านตามแนวชายแดน พบว่ายังไม่มีใครเห็นด้วยกับการเปิดด่านในเวลานี้ เพราะประชาชนยังคงกังวลต่อความปลอดภัยและความมั่นคง ชาวบ้านจำนวนมากยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทะขึ้นอีก แม้สถานการณ์โดยรวมจะสงบ แต่ความหวาดระแวงยังไม่หมดไป สะท้อนจากพฤติกรรมของชาวบ้านที่ยังต้องจอดรถหันหัวออกถนน เพื่อเตรียมพร้อมอพยพได้ทุกเมื่อ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความไม่มั่นใจในความปลอดภัยของพื้นที่ สิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนก่อน เรื่องการเปิดด่านควรเป็นเรื่องรอง อย่างน้อยหากยังไม่เห็นความชัดเจนเรื่องการถอนกำลัง ก็ไม่ควรพูดถึงการเปิดด่าน แม้ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ โรงเรียนที่เคยสอนเพียงครึ่งวันก็กลับมาเปิดเรียนเต็มวันแล้ว แต่ความทรงจำจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย–กัมพูชาในอดีต ทั้งเสียงปืนและเสียงระเบิด ยังคงตามหลอกหลอนชาวบ้าน บางครั้งแค่ได้ยินเสียงฟ้าผ่า ชาวบ้านก็ยังรู้สึกผวา ความกลัวฝังลึกในใจพวกเขา ยังเป็นสิ่งที่รัฐต้องเข้าใจและหาวิธีสร้างความเชื่อมั่น

 

 

 

 

 

“แม้การเปิดด่านจะช่วยให้เศรษฐกิจชายแดนขับเคลื่อนได้ แต่ตนมองว่า การตัดสินใจควรยึดความมั่นคงเป็นหลัก หากมองอีกแง่หนึ่ง การเปิดด่านย่อมเป็นประโยชน์ต่อการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจชายแดน แต่จะต้องเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน ไม่เช่นนั้นการเร่งรัดเปิดด่าน อาจสร้างปัญหามากกว่าผลดี” จากมุมมอง การเปิดด่านชายแดนไม่ใช่เพียงประเด็นเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องความมั่นคงและความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ ดังนั้น การสร้างบรรยากาศแห่งความปลอดภัย และดำเนินการตามข้อตกลงไทย–กัมพูชาอย่างเคร่งครัด จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญก่อนการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการเปิดด่านในอนาคต” ดร.ประจวบ กล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว จิรภัทร หมายสุข ผู้สื่อข่าว topnews ทั่วไทย จ.ศรีสะเกษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บุกโรงงาน 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ฝีมือจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดเที่ยวบิน 'เสิ่นหยาง-กรุงเทพฯ'หนุนท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค
"ซาบีดา" เปิดโครงการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นจ.นครสวรรค์ "ต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีแห่งเมืองสวรรค์" ปลูกพลังวัฒนธรรม สู่เมืองสวรรค์อย่างยั่งยืน
ตม.ประจวบฯ สานสัมพันธ์ จัดหางานจังหวัดฯ สวัสดีปีใหม่
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" สวมเสื้อแซว ทรงไทยจิตรลดา นุ่งมัดหมี่โฮล ราชินีแห่งผ้า อัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์
อบจ.ปทุมธานี เตรียมจัดงานใหญ่ รำลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​