“นายกฯอนุทิน” เอาไง! “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายไปต่อหรือจบแค่นี้หลัง “อนุทิน” ยังลังเลสานต่อโครงการเพื่อไทย พร้อมย้อนดูนโยบายภูมิใจไทยหาเสียงเหมาจ่าย 40 บาทต่อวัน

“นายกฯอนุทิน” เอาไง! “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” – Top News รายงาน

เป็นที่แน่ชัดแล้ว สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ต้องพับไปกับรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร หลังพยายามดันให้ใช้ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ พิจารณาเสร็จไม่ทัน จึงเลื่อนเป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 สุดท้ายเมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาลอนุทิน ยังไม่มีความชัดเจนว่านโยบายนี้จะไปต่อหรือไม่

สำหรับร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. / ร่าง พ.ร.บ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่) พ.ศ. และ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. โดยสถานะของร่างกฎหมายแต่ละฉบับ อยู่ในที่ประชุมวุฒิสภาได้รับหลักการวาระที่ 1 แล้ว ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นชอบและสนับสนุนทั้ง 3 ร่าง และขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาแปรญัตติ ของสมาชิกวุฒิสภา เนื่องจากเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน จึงมีกรอบเวลาพิจารณาภายใน 30 วัน คาดว่าจะผ่านที่ประชุมวุฒิสภาในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พรรคเพื่อไทยที่เริ่มนโยบาย เห็นว่าราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามแต่ละสายและจำนวนสถานีที่เดินทาง โดยอัตราค่าโดยสารมีการปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาและนโยบายของแต่ละผู้ให้บริการ อาทิ
รถไฟฟ้า BTS (สายสีเขียว) เริ่มต้น 17 บาท สูงสุด ไม่เกิน 62 บาทต่อเที่ยว
รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน) เริ่มต้นที่ 17 บาท สูงสุดที่ 45 บาท
รถไฟฟ้า MRT (สายสีม่วง) และรถไฟฟ้าสายสีแดง 20 บาทตลอดสาย (รัฐอุดหนุน)
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุดที่ 45 บาท
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุดที่ 45 บาท

จากราคาเดิมที่ผู้ใช้บริการมองว่ามีราคาแพง เมื่อต้องเปลี่ยนสายการจ่ายหลายรูปแบบไม่สะดวกสบาย รัฐบาลเพื่อไทยจึงเกิดแนวคิดรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายใช้เป็นนโยบายหาเสียง และเมื่อเป็นรัฐบาลจึงได้ทดลอง 2 สายก่อน คือ สายสีแดง และสายสีม่วง ในราคา 20 บาท กระแสตอบรับของประชาชนดีเยี่ยม จนนำมาสู่แนวคิดใช้บังคับทุกสาย ในราคา 20 บาท กระทรวงคมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มต้นศึกษาแนวทางปฏิบัติและแหล่งเงินทุนชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และแก้ไขกฎหมายที่จำเป็น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

7 ก.ค.68 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าทุกกสายจำนวน 13 เส้นทาง ครอบคลุมระยะทาง 279 กม.ไม่เกิน 20 บาท เริ่มใช้ 1 ตุลาคม 68 นี้ ส่วนการชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการ จะมีกองทุนตั๋วร่วม
ส.ค.68 รัฐเดินหน้าประกาศให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ผ่านแอพ ทางรัฐ ตั้งแต่ 25 ส.ค.68 โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนจำนวนมาก เฉพาะวันแรก คมนาคมเผยยอดลงทะเบียนสำเร็จกว่า 100,360 คน
ก.ย.68 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม ได้ประกาศเลื่อนการใช้จากเดิม 1 ต.ค. เป็นวันที่ 15 พ.ย.68 เหตุจาก ร่างกม.ทั้ง 3 ฉบับ ข้างต้น ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ
กระทั่ง นายกฯแพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ต้องพ้นจากตำแหน่ง และมีนายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่

เมื่อวันที่ 9 ก.ย.68 นายกฯอนุทิน เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่พรรคภูมิใจไทย ถึงความคืบหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายของรัฐบาลเดิมว่า “เรื่องนี้ต้องพิจารณาดูก่อน หากทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์แน่ เพราะที่ผ่านมาบางโครงการดำเนินการแล้วพบว่ามีการขาดทุน ซึ่งเราต้องรักษาวินัยทางการเงินการคลังด้วย เพื่อให้โครงการสามารถอยู่รอดดได้ ถ้าหากรัฐต้องหางบประมาณเพื่อมาชดเชยส่วนต่างทุกๆปี ในการดำเนินการเพื่อซื้อกิจการคืนจากผู้ที่ลงทุนก็คงไม่ใช่”

นายกฯอนุทิน

 

หากเราย้อนไปดูนโยบายของพรรคภูมิใจไทยเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชน จากการเดินทาง ขนส่งสาธารณะ ที่ใช้หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาพบว่า พรรคภูมิใจไทยเสนอให้คนกรุงเทพใช้รถไฟฟ้า รัฐบาลเป็นคนลงทุน ค่าโดยสารต้องสมเหตุสมผล เพื่อให้ประชาชนหันมาใหความสำคัญกับการใช้รถขนส่งสาธารณะ

พรรคภูมิใจไทยมีนโยบาย One Day Pass Ticket ออกตั๋วรถไฟฟ้าเป็นตั๋ววัน วันละ 40 บาท ไปกี่เที่ยวก็ได้ และขั้นต่ำถ้าเดินทางสั้นๆ แค่สถานีเดียว 15 บาท ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายประชาชนได้มาก และจะทำให้ประชาชนมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น แก้ปัญหารถติดในเขตเมืองได้ ซึ่งมาถึงรัฐบาลอนุทินในยุคปัจจุบัน จะมองปัญหาเรื่องนี้อย่างไรเพราะรัฐบาลที่ผ่านมาแม้จะทดลองเพียง 2 สาย ในค่าโดยสาร 20 บาทประชาชนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ตลอดจนภาควิชาการและภาคเอกชนก็มีข้อเสนอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้ต่อ

ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า ทีดีอาร์ไอสนับสนุนให้ทบทวนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เนื่องจากกังวลเรื่องภาระงบประมาณและความยั่งยืนทางการคลัง โดยเสนอให้ใช้ระบบตั๋วร่วมเป็นทางออกในการแก้ปัญหาค่าโดยสารแพง โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางข้ามสาย สำหรับการทบทวนนั้นเนื่องจากนโยบายดังกล่าวใช้งบประมาณสูงเกินไปและเสี่ยงต่อภาระการคลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องยกเลิกโครงการทั้งหมด อย่างไรก็ดี ขณะนี้ พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ทำให้สามารถกำหนดแนวทางการดำเนินงานต่อไปได้ หากนโยบาย 20 บาทไม่เดินหน้าต่อ ก็จำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ เช่น การกำหนดค่าโดยสารภาพรวมไม่เกิน 45 บาทต่อหลายสาย และอาจต้องมีการลดค่าแรกเข้าเมื่อต้องเปลี่ยนสาย

 

สอดคล้องกับนายสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาผู้บริโภค ระบุ สภาผู้บริโภคได้ร่วมผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อทำให้ภาคประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน จึงได้จัดทำแถลงการณ์เสนอทางออกขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทให้เดินหน้าได้ตามแผน ด้วยการให้รัฐบาลนำงบประมาณ 34,000 ล้านบาท ที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งไว้ในการดำเนินโครงการทางด่วนสองชั้น มาผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท สร้างผลดีทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงบริการสาธารณะ

ขณะที่หนึ่งในผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ รถไฟฟ้าบีทีเอส ว่า 11 ก.ย.นี้ แพ็กเกจเที่ยวเดินทางบีทีเอส Xtreme Savings (เอ็กซตรีม เซฟวิ่งส์)พร้อมให้จำหน่ายบนแอปแรบบิท รีวอร์ดส และห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารทุกสถานี  โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. 68 – 31 มี.ค. 69 โดยบุคคลทั่วไป เริ่มต้น 34 บาทต่อเที่ยว ส่วนนักเรียน นักศึกษา เริ่มต้น 27 บาท ต่อเที่ยว พร้อมให้จำหน่ายบนแอปแรบบิท รีวอร์ดส และห้องจำหน่าย ตั๋วโดยสารทุกสถานี หลังจากเติมเที่ยวเดินทางเข้าบัตรแรบบิท ผู้โดยสารจะต้องเดินทางเที่ยวแรกภายใน 7 วัน และใช้เที่ยวเดินทางที่เหลือได้ตามอายุแพ็กเกจ

นี่จึงเป็นอีก 1 ประเด็นร้อนที่ นายกฯอนุทิน ต้องแก้ปัญหาให้ชัดเจน ประชาชนมีความหวังจากรัฐบาลเดิม จึงไปลงทะเบียนรับสิทธิ หลายแสนคนแล้ว ถ้าหากร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับผ่าน เกิดตั๋วร่วมได้จริง รัฐบาลจะหยิบเรื่องนี้มาพิจารณา ซึ่งอย่างน้อยก็เดินทางนโยบายพรรคภูมิใจไทย ที่เคยหาเสียงไว้ตั๋ววัน เพียงวันละ 40 บาท ซ ก็ถือว่าอยู่ในราคาที่สมเหตุสมผล ประชาชนจ่ายได้ รัฐบริหารงบประมาณในภาพรวมดูแลประชาชนได้ ก็คงจะเกิดประโยชน์ไม่น้อย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดศรีสะเกษ หนุนเปิดด่านชายแดนไทย กัมพูชา แต่ต้องคำนึงความปลอดภัย เตือนอย่าให้เบี่ยงประเด็นสู่ปัญหาการพนัน หนุนเปิดรักษาพยาบาลข้ามแดน
แม่ทัพภาคที่ 3 ร่วมพิธีสถาปนากองทัพน้อยที่ 3 ครบรอบ 36 ปี
กู้ภัยเมตตาโคราช จัดงาน 'ซิโกว' ประเพณีไหว้บรรพบุรุษจีน เตรียมพิธีใหญ่เทกระจาด 14 ก.ย. นี้
"CEO ท็อปนิวส์" ต้อนรับ "คิดดีไอดอล 2025"ชื่นชมพลังบวกคนรุ่นใหม่ ขอบคุณ "สำนักงานสลากฯ"ร่วมขับเคลื่อนเยาวชน สร้างสรรค์สังคมยุคดิจิทัลปลอดพิษภัยการพนัน
“กองทัพภาคที่ 2” สรุปสถานการณ์ชายแดน “กัมพูชา” เสริมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ต่อเนื่อง ขนส่งวัสดุก่อสร้างปรับปรุงที่มั่น ทหารไทยเฝ้าติดตามใกล้ชิด
ซันสวีท ทำพิธีบวงสรวงพระพิรุณ เสริมพลังเครือข่ายเกษตรกร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​