เมื่อถามถึงกรณีที่หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อาจมีการระบุว่า 4 เดือนไม่ทัน ขอเวลามากกว่านี้ เพื่อให้กระบวนการเสร็จสิ้นโดยไม่มีข้อสงสัยนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ตนได้ชี้แจงไปหมดแล้วว่า สิ่งที่พรรคประชาชนออกมาแสดงความชัดเจน คือการดำเนินการต่อจากนี้ ควรจะต้องทำอย่างไร เช่น การแก้ไขหมวด 15 โดยเร็วทันที โดยไม่ต้องรอให้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งถือเป็นทางออกแบบหนึ่ง เพื่อให้บรรลุตามข้อตกลง ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะมีการดำเนินการหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบแทนได้ เป็นสิ่งที่สื่อมวลชนต้องไปถามนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ตนยืนยันว่า การดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้พวกเราเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ดำเนินการตามข้อตกลง เราพร้อมใช้เสียงที่มีในสภา กำกับรัฐบาลให้เป็นไปตามข้อตกลง
อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับใครเลย รวมถึงพรรคภูมิใจไทยด้วย เพราะการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย มีเพียงการพูดคุยผ่านวิปตามปกติ ย้ำว่า ตั้งแต่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่มีการต่อสายตรงหลังบ้าน ไม่เคยมีการสื่อสารใดๆ กับหัวหน้าพรรคการเมืองใด ที่ผ่านมา พวกเราพยายามทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้าน ที่ไม่มีอำนาจในการกำกับทิศทางฝ่ายบริหารโดยตรง
เมื่อถามว่า หากนายอนุทิน ไม่เห็นด้วยกับการตีความของพรรคประชาชน ทั้งเรื่อง สสร.และการจัดทำประชามติ จะทำอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องรอพูดคุยแลกเปลี่ยนกันก่อน โดยสำนึกของวิญญูชน เราสามารถเห็นได้ว่า พรรคภูมิใจไทยมีความจริงใจมากน้อยแค่ไหน ในการเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของข้อตกลง เพราะหากมีการบิดพลิ้ว เราก็พร้อมใช้ 143 เสียงล้มรัฐบาลทันที และกำกับทิศทางรัฐบาลให้เป็นไปตามข้อตกลงมากที่สุด
สำหรับกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นว่า เมื่อกำหนดกรอบไว้มากขนาดนี้ ต่อให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้จริงตามกระบวนการ แต่ก็อาจไม่ใช่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แท้จริง เห็นด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคน ที่ต้องผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ในฐานะผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญมากที่สุด

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัว นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่า พร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้านทันทีที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ณ ตอนนี้ หากให้ความเห็นไปในฐานะผู้นำฝ่ายค้านแล้วมีการปรับปรุงโฉมหน้า ครม. ตามที่ตนให้ความเห็น จะกลายเป็นว่าพรรคประชาชนไปยุ่งเกี่ยวกับ ครม. ซึ่งเป็นเส้นแบ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่เราพยายามสื่อสารกับสังคมมาโดยตลอด ดังนั้น ความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการจัด ครม. ขอให้เป็นข้อคิดเห็นของสาธารณชน และ สส.ทุกคน แต่ในฐานะหัวหน้าพรรค ขอรอให้เกิดความชัดเจนก่อน
เมื่อถามว่ามีการบ้านอะไรที่จะมอบให้รัฐมนตรีใหม่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า กรอบเวลา 4 เดือน ก็เป็นกรอบระยะเวลาสั้นๆ ที่ตนอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุด และอย่าลืมคำนึงถึงผลผูกพัน เช่น การใช้จ่ายงบประมาณไปถึงรัฐบาลชุดหน้า สิ่งที่เราต้องการตอนนี้ คือรัฐบาลชุดใหม่ที่ประชาชนเลือกมาไปพร้อมกับการเปิดประตูแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็คงไม่ฝากอะไรมากไปกว่าให้ทุกคนเดินหน้าไปตาม MOA ที่ทำมา
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนสามารถตรวจสอบว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นบุรีรัมย์คอนเนคชัน และเป็นคนสนิทของ สว.สีน้ำเงิน ได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็พร้อมตรวจสอบทันที อยากให้จับตาการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันแรก ที่นอกเหนือจากเนื้อหาที่จะแถลง ก็ยังมีความเหมาะสมของ ครม. ที่เราเตรียมเนื้อหาไว้อภิปรายเรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่มีคนมองว่าเป็นความรับผิดชอบของนายณัฐพงษ์ ที่ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นบุรีรัมย์คอนเนคชัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่บอกไป ขอยังไม่ให้ความเห็นในส่วนนี้ รอการแต่งตั้งและทำหน้าที่อย่างเป็นทางการก่อนดีกว่า
“ผมพร้อมให้ความคิดเห็นอย่างเต็มที่เรื่อง ครม. แต่หากตนให้ความเห็นไปก่อน แล้วมีการปรับเปลี่ยน ครม. ก็แปลว่าตนไม่ได้ดำรงสภาพในพรรคฝ่ายค้าน”
ขณะที่ตำแหน่งที่มีการยืนยันแล้ว เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย จะทำให้เกิดข้อครหาหรือไม่ ควรจะเป็นคนกลางหรือคนนอกมารับตำแหน่งนี้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ 100% อาจจะยังมีการปรับเปลี่ยนได้ ตอนนี้ขออนุญาตจริงๆ ว่ายังไม่ให้ความเห็นในส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าการไม่ให้ความเห็นเท่ากับยอมรับหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รอดูการทำหน้าที่วันแรกของการเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างเต็มตัว หมุดหมายวันแรกคือการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันนั้นถ้ามีความชัดเจนแล้ว เราพร้อมจะตรวจสอบอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมาแน่นอน