ศาลรธน. ยกคำร้อง “สส.เพื่อไทย” ขอเพิกถอนคำตัดสิน “แพทองธาร” พ้นนายกฯ

ประธานวุฒิสภา (ผู้ถูกร้องที่ ๒) และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน ๓๖ คน ผู้ถูกร้องที่ ๓) การยื่นคำร้อง ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลของนายสกนธ์ การกระสัง (ผู้ถูกร้องที่ ๖) การแจ้งความดำเนินคดีอาญาของคณะบุคคล ประกอบด้วยนายสมชายแสวงการ นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายคมสัน โพธิ์คง (ผู้ถูกร้องที่ ๑๒) การเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (ผู้ถูกร้องที่ ๔) คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (ผู้ถูกร้องที่ ๕) นายวรงค์ เดชกิจวิกรมประธานพรรคไทยภักดี (ผู้ถูกร้องที่๙) พรรคไทยภักดี (ผู้ถูกร้องที่ ๑๐) คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยผู้ถูกร้องที่ ๑๑) และแกนนำคณะรวมพลังแผ่นดิน (ผู้ถูกร้องที่ ๑๔) การลงนามถวายฎีกาของคณะนักวิชาการนักวิจัย และอาจารย์มหาวิทยาลัย จำนวน๑๕๕ คน (ผูู้กร้องที่ ๑๓) รวมถึงการดำเนินงานของนายทะเบียนพรรคการเมือง (ผู้ถูกร้องที่ ) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่๔) และคณะบุคลผู้เกี่ยวข้องกับคดีการฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๒๒๙ คน (ผู้ถูกร้องที่ ๑๕)

การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสิบห้าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ และมาตรา ๙๒ วรรคหนึ่ง (๑) (๒) และ (๓) ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดและอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นกรณีที่ได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หลักเกณฑ์ วิธีการ และกระบวนการ ยุติธรรมกำหนดขั้นตอนไว้เป็นโดยเฉพาะแล้ว จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ