เนปาลเดือด! “ม็อบโหด” ขยายวงประท้วงโค่นอดีตผู้นำ ลุยเผารัฐสภา ทำร้ายรมต.และครอบครัว บาดเจ็บ-เสียชีวิต

ถานการณ์เนปาลปะทุหนัก ความรุนแรงถึงขั้นขีดสุด ผู้ประท้วงบุกเผารัฐสภา ขณะที่นายกฯ ประกาศลาออก ท่ามกลางความโกลาหลทั่วประเทศ การประท้วงที่เนปาล เต็มไปด้วยเหตุการณ์รุนแรงอย่างน่าสะพรึงกลัว ไม่ใช่แค่การเผาทำลายทรัพย์สินสาธารณะ เผาบ้านนักการเมือง แต่ยังมีการรุมทำร้ายรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี และคนในครอบครัวอย่างทารุณ ขณะผู้บัญชาการกองทัพบกลั่นจะไม่ยอมให้บ้านเมืองไร้ขื่อแป แนะหันหน้ามาเจรจา ส่วนนายกฯคาดว่าหนีไปดูไบ

เนปาลเดือด! “ม็อบโหด” ขยายวงประท้วงโค่นอดีตผู้นำ ลุยเผารัฐสภา ทำร้ายรมต.และครอบครัว บาดเจ็บ-เสียชีวิต – Top News รายงาน

เนปาล

 

เหตุประท้วงครั้งใหญ่ในประเทศเนปาลทวีความรุนแรงขึ้นถึงขีดสุด เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนรุ่นใหม่บุกเข้าสภาและจุดไฟเผาอาคารรัฐสภาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย นำไปสู่การประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรี เค.พี. ชาร์มา โอลี ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ของประเทศ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจปนกับภาพความโกลาหลในหลายเมือง ทั่วประเทศ

การชุมนุมเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มประชาชนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย และจัดการกับปัญหาคอร์รัปชันที่ฝังรากลึกในระบบการเมือง หลังจากรัฐบาลสั่งตัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลรายใหญ่ถึง 26 แพลตฟอร์ม เว้นแต่ติ๊กต๊อกที่ไม่ถูกปิดกั้น อย่างไรก็ดี แม้รัฐบาลจะยอมถอย โดยยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดียในเช้าวันอังคาร และให้บริการกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่กลับไม่สามารถหยุดยั้งกระแสความไม่พอใจของประชาชนได้ กลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มอายุระหว่าง 20-30 ปี ยังคงออกมารวมตัวทั่วกรุงกาฐมาณฑุ

ขณะที่จุดวิกฤตที่เกิดขึ้นคือ มีผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งบุกเข้าไปยังรัฐสภา ทำลายรั้วกั้น และจุดไฟเผาอาคารหลักของรัฐสภา นอกจากนี้ บ้านพักของนายกรัฐมนตรีโอลี ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุเผาทำลายด้วย ด้านประธานาธิบดีรามจันทรา เปาเดล ก็ไม่รอดพ้นจากการเป็นเป้าหมายของความโกรธแค้น เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงบุกเผาสำนักงานประธานาธิบดีเช่นกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้น ภายหลังการเผารัฐสภาไม่นาน นายกรัฐมนตรีโอลี วัย 73 ปี ก็ได้ยื่นจดหมายลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า การตัดสินใจนี้มีขึ้นเพื่อเปิดทางสู่การแก้ปัญหาทางการเมือง ขณะที่ประธานาธิบดีเปาเดล ก็ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่าย ใช้ความอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายเพิ่มเติม พร้อมเตือนว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจนำประเทศไปสู่ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและสังคม แต่คำเรียกร้องดังกล่าว ดูเหมือนจะไม่สามารถระงับสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็วได้ โดยมีรายงานว่า ควันไฟจากการเผาอาคารหลายแห่ง ส่งผลกระทบต่อการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติกาฐมาณฑุ จนเที่ยวบินบางเที่ยวต้องถูกยกเลิกไป

 

หนึ่งในเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการประท้วงที่เนปาลเมื่อวานนี้ (9 กันยายน) คือกรณีของ นางราชยะรัศมี จิตราการ์ (Rajyalaxmi Chitrakar) ภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรี ชลานาถ คานัล ของเนปาล มีรายงานว่า ผู้ประท้วงที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้น จุดไฟเผาบ้านขณะที่เธอยังอยู่ในนั้น ซึ่งก็ไม่ต่างจากการเผาคนทั้งเป็น  คลิปที่แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นทหารเข้าไปช่วยเธอออกมา และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เธอบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต

นอกจากนี้ มีคลิปที่สื่อหลายสำนักระบุว่าเป็น นายพิษณุ ปราสาท พาวเดล รัฐมนตรีคลัง วัย 65 ปี วิ่งหนีผู้ประท้วงบนถนน และถูกทุบตี

อีกเหตุการณ์น่าตกใจ นายเชอร์ บาฮาดูร์ เดบา อดีตนายกรัฐมนตรี และนางอาร์ซู เดบา รานา ภรรยา ซึ่งปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ถูกทำร้ายร่างกายอย่างทารุณหลังม็อบบุกบ้านและบังคับออกมาจากบ้าน คลิปแสดงให้เห็นนางอาร์ซู วัย 63 ปี ในสภาพเลือดอาบใบหน้ากลางดงม็อบ ถูกเตะจากด้านหลัง และต่อยเข้าที่หน้า ส่วนสามี ก็ถูกทำร้ายอย่างสะบักสะบอมเช่นกัน ก่อนได้รับการช่วยเหลือจากทหาร

พลเอก อโศก ราช ซิกเดล (Ashok Raj Sigdel ) ผู้บัญชาการทหารบกเนปาล แถลงผ่านคลิปวิดีโอ เมื่อคืนที่ผ่านมา เรียกร้องผู้ประท้วงทุกกลุ่มยุติการประท้วง และหันมาเจรจากัน เพื่อหาทางออกจากวิกฤติครั้งเลวร้าย พร้อมย้ำว่า กองทัพมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ความเป็นเอกภาพของชาติ และจะไม่ยอมให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินมากไปกว่านี้ หากความไม่สงบยังเกิดขึ้นต่อไป สถาบันความมั่นคงทุกแห่ง รวมถึงกองทัพเนปาล จะเข้าควบคุมสถานการณ์ มีผลตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มของวันอังคารที่ 9 กันยายน ( 23 นาฬิกา 15 นาที วันเดียวกันตามเวลาประเทศไทย เวลาที่เนปาลช้ากว่าไทย 1 ชั่วโมง 15 นาที) แต่ผู้บัญชาการทหารเนปาล ไม่ได้ลงรายละเอียด

สื่ออินเดียหลายสำนักรายงานว่า นายพลอโศก เป็นผู้หนึ่งที่แนะนำให้ นายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ลาออก และคาดว่า นายโอลี นายกรัฐมนตรี 4 สมัย วัย 73 ปี เดินทางออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัวไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งต่อมา บ้านพักส่วนตัวของเขา ทางตะวันออกของเมือง ก็เป็นอีกแห่งที่ถูกจุดไฟเผา

บ้านนักการเมืองที่มีรายงานถูกจุดไฟเผา ได้แก่ บ้านประธานาธิบดี ราม จันทระ พูเดล , บ้านของนาย ราเมช เลคัก รัฐมนตรีมหาดไทย และบ้านของนายพุชปา คามัล ดาฮัล ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล

การประท้วงครั้งนี้เริ่มแรกเป็นการก่อหวอดของคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนวัย 14-40 ปีนั้น คิดเป็นเกือบ 43% ของประชากรเนปาล โดยหลังจากรัฐบาลสั่งแบนโซเชียลมีเดีย 26 แพลตฟอร์มเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยให้เหตุผลว่าเพราะแพลตฟอร์มเหล่านั้นไม่ได้ลงทะเบียนตามกฎหมาย แต่ TikTok ซึ่งไม่ได้โดนบล็อก มีการแชร์คลิปลูก ๆ นักการเมือง ใช้ชีวิตหรูหรา ไปเที่ยวที่แพง ๆ สวนทางกับภาพประชาชนทั่วไปที่กำลังดิ้นรนปากกัดตีนถีบ คลิปเหล่านี้เป็นไวรัลและจุดกระแสโกรธแค้นหนักขึ้น อย่างไรก็ตาม
ผู้ประท้วงวัย 26 ปีคนหนึ่งบอกว่า ความคับแค้นเกิดจากการทุจริตคอรัปชั่นก่อตัวมานานกว่า 20 ปี สิ่งที่เห็นเวลานี้ คือประกายไฟที่โซเชียลมีเดียจุดติดขึ้นมาเท่านั้น

      

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและการบูรณาการข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน
คึกคัก คนไทยเชื้อสายจีนกับชาวบ้านร่วมพิธีสมโภชน์เทพเจ้า พร้อมลุ่นเลขมงคล รางวัลที่ 1
“นายกฯอนุทิน” เผยตรวจประวัติรมต. ต้องใช้เวลา ตอนนี้ยังไม่มีใครถูกตีตก เตรียมเปิดตัวรมว.ยุติธรรม โควตาคนนอก
โคราชจัดใหญ่ AgriTech & Agro-Processing Machinery Fair 2025 ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทย
มาดามหยก ร่วมเจริญพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงแบบล้านนา
"เอกนิติ" ว่าที่รมว.คลัง ลั่นพร้อมสุด ขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นศก. เตรียม "คนละครึ่ง" พร้อมแล้ว

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​