“ศบ.ทก.”​ ชี้​เตรียมประชุม GBC​ นัดต่อไป​ 7-10 ก.ย.นี้​ ไทยยืนยันหาทางออกร่วมกับกัมพูชาอย่างสันติ

"ศบ.ทก."​ ชี้​เตรียมประชุม GBC​ นัดต่อไป​ 7-10 ก.ย.นี้​ ไทยยืนยันหาทางออกร่วมกับกัมพูชาอย่างสันติ

วันนี้ (3 ก.ย.68) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ​ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ และโฆษกกระทรวงกลาโหม​ และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมประจำวันพุธที่ 3 กันยายน 2568

โดยพลเรือตรีสุรสันต์ กล่าว ว่า ในภาพรวมยังคงมีการตรึงกำลัง ของทั้งสองฝ่ายสถานการณ์โดยทั่วไป ถือว่าอยู่ในภาวะสงบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากห้วงเวลาที่ผ่านมา ขณะที่ผลการดำเนินงานของคณะทำงานผู้สังเกตการณ์ทั่วไป​ หรือ​ IOT​ โดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้นำคณะ เดินทางลงพื้นที่ในความรับผิดชอบของหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และเดินทางลงจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กสังเกตหลักเขตแดนที่ 73 หลักเขตแดนสุดท้ายทางบก​ แสดงการปักปั่นเขตแดนที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านหาดเล็กจังหวัดตราด ก่อนที่จะเดินทางไปยังขอร้อยทหารพรานที่ 537 เพื่อเยี่ยมชมการปฏิบัติและรับทราบการปฏิบัติงานในการเก็บกู้ทุนระเบิดของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นพื้นที่​ ที่มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขา​ ยากต่อการเข้าถึงและต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังของทางฝ่ายกัมพูชาติดอาวุธแสดงให้เห็นถึงความท้าทาย​ และยากลำบากในการดำเนินการ ก่อนเยี่ยมชมบ้านเขาล้านซึ่งเป็นศูนย์อพยพของชาวกัมพูชาในอดีต​ โดยขั้นตอนของการรายงานทุกฉบับจะถูกจัดส่งไปยังคณะ​ เพื่อนำเสนอผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการ ของทั้งสองประเทศผ่านกลไกลตามประสานงานของกองทัพ และคณะผู้สังเกตการณ์เน้นย้ำว่า​ ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินว่าฝ่ายใดถูกหรือผิดแต่จะทำหน้าที่สังเกตการณ์เก็บข้อมูลและรายงานอย่างเป็นธรรม

 

ขณะที่แผนงานการจัดการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ​ GBC สมัยวิสามัญครั้งที่ 2/2568 มีกำหนดการจัดระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2568 ในพื้นที่จังหวัดเกาะกง​ ประเทศกัมพูชา โดยรูปแบบของการประชุมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือการประชุมของฝ่ายเลขานุการร่วม ช่วงวันที่ 7-9 กันยายนและจากนั้นในวันที่ 10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC หลัก และจะมีการแถลงข่าวหลังการประชุมในพื้นที่จังหวัดตราด

ขณะเดียวกันการติดตามการดำเนินการบริหารจัดการบริเวณชายแดนพื้นที่บ้านหนองจาน​ และบ้านหนองหญ้าแก้ว​ จ.สระแก้ว​ ในวันนี้ที่ประชุมศบ.ทก.​ จังหวัดสระแก้ว​ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด​ ได้ชี้แจงนำเสนอแนวทางการดำเนินการในการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนชาวไทย ในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมีแผนในการจัดสร้างรั้วระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร​ บริเวณหลักเขตแดนที่ 50-51 ซึ่งถือเป็นหลักเขตแดนที่มีการสำรวจและได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับจะมีการสำรวจสิทธิการครอบครองที่ดินในพื้นที่อย่างละเอียด ตลอดจนมีมาตรการดำเนินการตามกฎหมายของไทยในการประกาศใช้กฎหมายกับชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่และแจ้งความดำเนินการกับราษฎรกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งที่ประชุมศบ.ทก.​เห็นชอบในหลักการที่จังหวัดสระแก้วได้เสนอมา​ และจะนำข้อมูลต่างๆเหล่านี้นำเสนอต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ หรือ​ สมช.​ ในวาระแห่งต่อไป​ เพื่อขออนุมัติ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางมาระตี กล่าวว่า การต่างประเทศมี 2 เรื่องคือ 1 การดำเนินการเชิงรุกของไทยในเวทีต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26 – 28 สิงหาคม ที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีหรือว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปที่นครเจนีวา เพื่อนำข้อมูลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะการวางทุ่นระเบิดในเขตแดนของไทยไปชี้แจงกับบุคคลสำคัญต่างๆ อาทิ ประธานการประชุมรัฐภาคี อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหรืออนุสัญญาออตตาวา ,เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหประชาชาติ สำนักงานว่าด้วยการลดอาวุธ กลุ่มที่ 2 รัฐภาคีและกลุ่มผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย สำคัญในกรอบอนุสัญญา ว่าด้วย ห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล กลุ่มที่ 3 คือ รองข้าหลวงใหญ่ เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ และกลุ่มที่ 4 ประธานคณะกรรมการกาชาด ระหว่างประเทศ

นางมาระตีกล่าวต่อว่าการเยือนครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญ เพราะนอกจากจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ยังเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะปฏิบัติ ภายใต้อนุสัญญา ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีอิทธิพล ต่อการผลักดันให้ กัมพูชาปฏิบัติตามอนุสัญญา และสามารถถามคำถามรวมถึงปรับความเข้าใจผิดของกัมพูชา

นางมาระตียังเปิดเผยอีกว่า นายมารินได้ใช้โอกาสนี้ประกาศว่าไทยจะเข้าร่วม ในโครงการรณรงค์ของสหประชาชาติในการลดอาวุธ เพื่อมนุษยธรรม และการดำเนินการด้านทุนระเบิด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตแทนถาวร ประชุมประเทศไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้เข้าพบเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อส่งข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ เพิ่มเติมจากการวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา ที่ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บถึง 6 ครั้ง นอกจากนี้ยังติดตามการขอรับคำชี้แจงของฝ่ายกัมพูชาด้วย

ทั้งนี้เพื่อนำกัมพูชาเข้าสู่การปฏิบัติการตามพันธะกรณีโดยสมบูรณ์ไทยต้องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับกัมพูชา ภายใต้กลไกทวิภาคี และข้อตกลงการหยุดยิงของทั้งสองฝ่าย เพื่อคุ้มครองชีวิต ความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ให้เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี

นางมาระตีกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ตามที่มีการปรากฏข้อมูลจากสำนักข่าวขแมร์ไทม์ ที่อ้างกรณี เดินทางกลับภูมิลำเนาได้ ว่าเป็นผลมาจากอาวุธตกค้างจากฝ่ายไทย บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาการบิดเบือนข้อเท็จจริง และฝ่ายกัมพูชายังคงเป็น ฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลงการหยุดยิง มาโดยตลอด ทั้งการลอบวางทุ่นระเบิด สังหารบุคคล อาจารย์สายด่วนและการปลุกระดม และพบการใช้ระเบิดแสวงเครื่องในฝั่งไทย

 

ทั้งนี้ยังมีรายงานจากนิตยสารความมั่นคง JANES defence Weekly ว่าจากภาพถ่ายดาวเทียม พบการก่อตั้ง การปฏิบัติการทางทหารของกัมพูชารายเดือน ก่อนเกิดเหตุการณ์ปะทะซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของไทย ที่ชี้แจงมาโดยตลอด ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่มการโจมตี รวมถึงความเป็นกังวลของไทยเกี่ยวกับการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูชา ซึ่งสำนักงานข้าหลวงใหญ่ เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR ได้หยิบยกมาเพื่อพูดคุยกับรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วมองว่า การโฆษณาชวนเชื่อของกัมพูชาคือปัญหาระดับโลก นอกจากบั่นทอนความไว้วางใจระหว่างกัน ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการหาทางออกโดยสันติ จึงขอให้กัมพูชายุติการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์

ทั้งนี้ไทยหวังว่ากัมพูชาจะให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ และไทยยืนยันในการแสวงหาทางออกร่วมกับกัมพูชาอย่างสันติ เพื่อให้ชายแดนไทยกัมพูชาคลี่คลาย ลดความตึงเครียด และนำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้สื่อข่าวภาคภาษาไทย ไชน่ามีเดียกรุ๊ป รายงานจากจตุรัสเทียนอันเหมิน
ศอ.บต. หนุน “ปอเนาะปั่นสุข” สู้ภัยยาเสพติด
"วิสุทธิ์" มั่นใจ "ภูมิธรรม" มีอำนาจทูลเกล้าพ.ร.ฏ.ยุบสภาฯ พร้อมสู้คดีถูกร้องผิด 112
คิมลั่นเกาหลีเหนือพร้อมทำทุกอย่างเพื่อช่วยรัสเซีย
"โฆษกทภ.1" กางโรดแมป ดันชาวกัมพูชาพ้นบ้านหนองจาน สระแก้ว สั่งการ "กองกำลังบรูพา" ซีลเข้มชายแดน งัดยุทธศาสตร์ปิดล้อม กดดันเขมรทุกทาง
“ผู้ว่าฯ สระแก้ว” ส่งหนังสือด่วนถึง “ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย” จี้เร่งย้ายชาวกัมพูชาออกจากบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ลุยเอาผิดรุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนฯ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​