“ดร.สุวิทย์” ชี้ถ้าคิดแค่รื้อ ล้างรธน. ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาประเทศ

"ดร.สุวิทย์" ชี้ถ้าคิดแค่รื้อ ล้างรธน. ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาประเทศ

วันที่ 1 ก.ย.2568 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง มัวแต่คิดเปลี่ยนเครื่องยนต์ โดยไม่ได้คุยกันก่อนว่ารถคันนี้จะวิ่งไปทางไหน

โดยระบุรายละเอียดว่า ทำไมการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์? ทำไมต้องมีสัญญาประชาคมชุดใหม่ ก่อนมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่? คำถามมีอยู่ว่า เราต้องการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หรือแค่ทุเลาอาการของปัญหา ทั้งนี้เพราะรัฐธรรมนูญ คือ “กติกาทางการเมือง” ส่วนสัญญาประชาคมเป็น “ฉันทามติทางสังคม” เป็นหลักการของการอยู่ร่วมกัน ดังนั้นแม้การแก้รัฐธรรมนูญจะมีความสำคัญ แต่ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ประเทศไทยได้ทั้งหมด เพราะมันแก้ได้แค่ “เครื่องมือ” แต่ยังไม่แก้ “วิธีคิด” หรือ “สำนึก” ที่อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งและความไร้เสถียรภาพของประเทศที่เผชิญอยู่ ณ ขณะนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุวิทย์ ได้ยก 5 เหตุผลที่ต้องมี “สัญญาประชาคมชุดใหม่” ก่อน “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ดังนี้
1.เพราะปัญหาไทยเป็นวิกฤต“ความไว้วางใจ” ไม่ใช่แค่วิกฤตการกำหนดกติกา คนไทยจำนวนมาก ไม่เชื่อใจสถาบันทางการเมือง นักการเมือง หรือแม้แต่เจตนาของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่มีความเชื่อมั่นร่วม สุดท้ายก็จะกลายเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่น่าเชื่อถือ

2.เพราะความขัดแย้งไม่ได้อยู่แค่ “ประเด็น” แต่อยู่ที่ “กรอบความคิด” รัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจเขียนให้ดูทันสมัย แต่ถ้าสังคมยังติดอยู่ในวัฒนธรรมอุปถัมภ์ อำนาจนิยม อภิสิทธิ์ชน การเมืองแบบพูดอย่างทำอย่าง และการแย่งชิงผลประโยชน์ ดังนั้นต่อให้กติกาดี ก็อาจถูกบิดเบือน เพื่อเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม

3.เพราะประเทศไทยต้องการ “คุณค่าร่วม” ไม่ใช่แค่ “กติการ่วม” รัฐธรรมนูญบอกว่าใครมีอำนาจทำอะไร ส่วนสัญญาประชาคมบอกว่า เราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร เพื่ออะไร ดังนั้น คุณค่าร่วมที่ชัดเจนจะเป็น “ฉันทามติทางสังคม” ที่เป็นตัวคอยกำกับทิศทางให้การเมือง กฎหมาย เศรษฐกิจ การศึกษา ฯลฯ เดินไปทางเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างไป กระจายคนละทิศละทาง

4.เพราะต้องผสาน “จารีต” กับ “ปฏิรูป” อย่างมีศาสตร์และศิลป์ รัฐธรรมนูญมักแก้เพื่อปรับสมดุลอำนาจ แต่สัญญาประชาคมชุดใหม่จะกำหนดว่า คุณค่า สถาบัน และหลักการอะไรที่เราจะปกปักษ์รักษา และอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่ออยู่รอด ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงไม่ใช่ “การตัดขาด” หรือ “การปกป้องสุดโต่ง” แต่เป็นการยกระดับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีหลักการ มีจังหวะจะโคน

 

5. เพราะภูมิทัศน์โลกที่กำลังเปลี่ยน ต้องการกรอบคิดใหม่ที่มองกว้างและมองไกล รัฐธรรมนูญเปลี่ยนตามการเมือง สัญญาประชาคมชุดใหม่จะวางฐานคุณค่าที่อยู่เหนือการเมือง เป็นคุณค่าที่นำไปสู่การสร้างประโยชน์สุข ความเป็นปกติสุข และสันติสุข ให้เกิดขึ้นในสังคม อาทิ ความยุติธรรม คุณธรรมจริยธรรม ความยั่งยืน ความรับผิดชอบต่ออนาคตของคนรุ่นใหม่ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี

นายสุวิทย์ ทิ้งท้ายว่า ถ้าไม่สร้างฉันทามติใหม่ เราก็จะวนซ้ำอยู่ในวงจร “รัฐธรรมนูญใหม่ -ถูกใช้อย่างบิดเบือน -สร้างความขัดแย้ง – ร่างขึ้นใหม่” ไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญจะมีนัยสำคัญ ก็ต่อเมื่ออยู่บนฐานของสัญญาประชาคมชุดใหม่ ไม่เช่นนั้นก็เหมือน “มัวแต่คิดเปลี่ยนเครื่องยนต์ โดยไม่ได้คุยกันก่อนว่ารถคันนี้จะวิ่งไปทางไหน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พิจิตร-ส่งด่วนทุกสถานการณ์!ไปรษณีย์พิจิตรพายเรือส่งจดหมายและพัสดุชาวบ้านริมแม่น้ำยม
“ศบ.ทก.”ชี้สถานการณ์ชายแดนปกติ เผยไทยจ่อถก GBC แจงข้อเท็จจริงนานาชาติ ปมทุ่นระเบิด 7-10 ก.ย.นี้
โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี คว้ารางวัลชมเชย “สิ่งประดิษฐ์ทางทหารด้านหลักการ” ระดับกองทัพบก ประจำปี 2568
พิษณุโลก อบจ.พิษณุโลก จัดโครงการศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน “เด็กพิษณุโลกฝันให้ไกล ไปให้ถึง”
ระทึก! โรงงานไม้อัดในบางพลีไฟไหม้ คาดบอยเลอร์ระเบิดก่อนลุกลามวอดเครื่องจักรและกองไม้
เร่งค้นหาบุคคลสูญหาย ล่าสุดพบร่างแล้ว หลังพลัดตกน้ำป่าทะลัก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​