พ่อ-แม่ “พลทหารอดิศร” ร่ำไห้หลังรู้ข่าวลูกชายเหยียบกับระเบิด ภูมิใจได้ปกป้องชาติ เผยลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ โทรบอกแม่ชายผ้าถุงหาย

พ่อ-แม่ "พลทหารอดิศร" ร่ำไห้หลังรู้ข่าวลูกชายเหยียบกับระเบิด ภูมิใจได้ปกป้องชาติ เผยลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ โทรบอกแม่ชายผ้าถุงหาย

วันที่ 28 ส.ค.68 เวลา 08.30 น.ที่ศูนย์ความเชี่ยวชาญอุบัติเหตุฉุกเฉินโรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ พลทหารอดิศร ป้อมกลาง สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด PMN-2 ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ถูกส่งตัวมารักษา เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) และยังอยู่ในห้องไอซียู (ICU) ชั้น 3 อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน

เมื่อเวลา 09.40น. นายไหล ป้อมกลาง และนางเสาวลักษณ์ ป้อมกลาง พ่อและแม่ของพลทหาร อดิศร พร้อมด้วย ภรรยา และลูกสาว วัย 3 ขวบ และญาติพี่น้อง เดินทางเข้าเยี่ยมพลทหาร อดิศร โดย นางเสาวลักษณ์ ป้อมกลาง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า มาเยี่ยมและให้กำลังใจลูกชาย เบื่องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับลูกชาย เพราะทางหน่วยต้องสังกัดยังไม่ให้คุย ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ คุณแม่ได้นำผ้าถุงเสมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์มอบไว้ให้กับลูกชายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัย นางเสาวลักษณ์ กล่าวว่า ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งลูกชายถูกระเบิดอยู่ 1 ครั้ง ขณะที่รบกัน ซึ่งขณะนั้นเพื่อนลูกชาย ที่เป็นทหารหน้าแนวได้เสียชีวิต ทำให้ผ้าถุงหาย และลูกชายโทรศัพท์มาหาตนแล้วบอกว่า ผ้าถุงหายแล้วนะแม่ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้บอกลูกสาวของพลทหารอดิศรหรือยัง นางเสาวลักษณ์ กล่าวว่า บอกแล้วว่า คุณพ่อไม่สบาย เป็นไข้อยู่โรงพยาบาล

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายไหล ป้อมกลาง อายุ 56 ปี บิดาพลทหารอดิศร ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้พูดไม่ได้ แต่ก็ดีใจมากที่ลูกทำหน้าที่ในแนวชายแดนรักษาประเทศไทยของเรา เมื่อถามว่าปัจจุบันมีกำลังพลเหยียบกับระเบิดแล้วถึง 6 นาย อยากจะฝากอะไรไปถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มากกว่าการทำหนังสือประท้วงหรือไม่ นายไหล กล่าวว่า อยากให้กำลังใจกำลังพลที่ยังอยู่ทุกนาย และให้กำลังใจกองทัพและแม่ทัพภาคที่ 2 ครับ เมื่อถามอีกว่า ภูมิใจในตัวลูกชายหรือไม่ นายไหล กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ภูมิใจมาก”

 

 

เมื่อถามว่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับลูกชายหรือไม่ ให้ระมัดระวังตัวในการปฏิบัติหน้าที่ นายไหล กล่าวว่า ยัง แต่มีโทรไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ลูกชายคุยแต่กับแม่ แต่เมื่อรู้ว่าลูกเราสบายดีเราก็สบายใจ แต่ลึก ๆ ก็เป็นห่วงลูกมาก ๆ และมาวันนี้ ตนก็เป็นห่วง แต่ก็ดีใจที่ลูกได้เป็นทหารได้รับใช้ชาติ เมื่อถามว่าอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาอย่างไรบ้างหลังจากนี้ นายไหล กล่าวว่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เอาเท่าที่ภาครัฐช่วยเหลือ แล้วแต่จะกรุณา

พร้อมกันนี้ ด้านลูกสาว วัย 3 ขวบ เดินขึ้นบันไดก่อนเข้าเยี่ยมคุณพ่อ ได้พูดออกมาว่า คุณพ่อไม่สบาย

 

 

นางเสาวลักษณ์ ป้อมกลาง อายุ 46 ปี แม่ของพลทหารอดิศร เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า วันนี้ครอบครัวและญาติๆ กว่า 30 คน ตั้งใจมาเยี่ยมลูกชาย ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนยังไม่ได้โทรคุยกัน วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหน้าลูกชายหลังเกิดเหตุ พร้อมยอมรับว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ตนเองได้นำชายผ้าถุงให้ลูกชายพกติดตัวไว้ ขณะไปประจำการในพื้นที่ชายแดน ซึ่งที่ผ่านมาลูกชายก็แคล้วคลาดปลอดภัยมาโดยตลอด

ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ทหารแนวหน้าถูกระเบิดเสียชีวิต ลูกชายของตนเองก็เคยเกือบถูกระเบิดเช่นกัน แต่ก็รอดมาได้ แต่ในครั้งนี้ลูกชายโทรมาบอกตนเองว่าชายผ้าถุงที่แม่ให้นั้นหายไป ตนเองจึงทำได้แค่ส่งกำลังใจให้ลูก ส่วนหลานสาว วัย 3 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของพลทหารอดิศร ตอนนี้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทางครอบครัวบอกว่า พ่อไม่สบาย เป็นไข้ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในวันนี้ก็พาหลานมาเยี่ยมด้วยเช่นกัน

 

 

แม่ของพลทหารอดิศร ยังกล่าวทิ้งท้ายทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองจุกในอก และไม่รู้จะพูด หรือฝากอะไรถึงฝั่งกัมพูชา แต่อยากวอนให้รัฐบาลไทยเอาคืนกับฝั่งกัมพูชาให้หนัก

 

ส่วนบรรยากาศในหอผู้ป่วย ทันทีที่ครอบครัวเดินทางเข้าไปเจอพลทหารอดิศร ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จากนั้นก็ได้มีการนำสายสิญจน์มาผูกข้อไม้ข้อมือ เพื่อเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจ

นพ.นาวิน ขันธรักษา ศัลยแพทย์โรงพยาบาลสุรินทร์ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดรักษา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ใช้เวลาผ่าตัดเกือบ 2 ชั่วโมง โดยไม่สามารถรักษาข้อเท้าขวาไว้ได้ จึงต้องทำการตัดช่วงหน้าแข้ง และผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดที่ข้อมือขวา ใบหน้า และตามร่างกายออกทั้งหมด โดยมีเพื่อนของพลทหารอดิศรบริจาคเลือดมา ทำให้การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้ไม่มีเลือดออกแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อระวังแผลติดเชื้อและจะต้องพักรักษาตัวต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ที่โรงพยาบาล

ขณะที่แพทย์หญิงกฤษณา ร้อยศรี รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ รักษาการผู้อำนวยการ บอกว่า ตอนนี้มีประชาชนแสดงความจำนงเข้ามาเป็นจำนวนมากในการบริจาคเลือด ซึ่งต้องแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีเลือดเพียงพอทุกกรุ๊ปเลือด จึงขอให้ประชาชนชะลอการบริจาคเลือดก่อน หากมีเหตุฉุกเฉินครั้งต่อไป จะมีการประชาสัมพันธ์และติดต่อให้เข้ามาบริจาคเลือดอีกครั้ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดฉากยิ่งใหญ่ PATTAYA FILM FESTIVAL 2025 ครั้งที่ 3 หนุนเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ชมฟรี 28–30 ส.ค.นี้
ประกาศผลเยาวชนผู้ผ่านการคัดเลือก “Kid Dee Idol 2025” 10 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ เตรียมเข้าร่วมเวทีปลุกพลังสร้างสรรค์จากทั่วประเทศ
ผู้ว่าเมืองคอน เปิดโครงการมินิธัญญารักษ์ คืนคนดีสู่สังคม
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ยานสำรวจทะลลึก 'ไห่ฉิน' ของจีนจบภารกิจในทะเลจีนใต้
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปลี่ยนสวนสาธารณะสู่แหล่งวัฒนธรรม .
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เยือนยลขุนเขา 'อินซาน' ลูกคลื่นเขียวชอุ่มในมองโกเลียใน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​