ข่าวที่น่าสนใจ
โดย พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง เผยว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวที่ผ่านมาอาจมองว่าไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบตามความเป็นจริงและอยู่ในกรอบของกฏหมาย เพื่อหาข้อสรุปและมติในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคดีที่มีทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ให้ได้ว่าจะสามารถเอาผิดในคดีอาญา กับบริษัท UJV ได้หรือไม่
ขณะที่ นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ กรรมการบริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด หรือ SCC เผยว่าที่ผ่านมาสหพันธ์ผู้รับเหมาภาคตะวันออก ได้ดำเนินการฟ้องร้องกลุ่ม UJV ในส่วนที่ไม่ได้รับการชำระค่าจ้างในการดำเนินโครงการพลังงานสะอาด CFP จ.ชลบุรี ประมาณ 7-8 พันล้านบาท ซึ่งคดีเริ่มมาตั้งแต่ปีก่อนและได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการฟ้องร้องในคดีอาญาด้านแรงงาน ซึ่งวันนี้กลุ่มผู้รับเหมาช่วง ต้องการให้กำลังใจกับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยทำงานมาตลอดกว่า 1 ปี
“ เราได้ฟ้องร้องในข้อหาฉ้อโกงแรงงาน เพราะ UJV ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าไม่มีเงินชำระค่าจ้างแรงงานให้กับเรา แต่ก็ยังหลอกให้เราทำงานให้จนมีผู้เสียหาย 40 กว่าบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งมาตลอดว่าอยู่ในช่วงดำเนินการ และในวันนี้ได้ลงมติในที่ประชุมว่าจะฟ้องอาญา ทำให้พวกเรารู้สึกดีใจและมีความหวัง จากนี้ก็พร้อมที่จะเดินหน้าในชั้นศาล ด้วยหวังว่าจะนำสู่การไกล่เกลี่ย และหาก UJV รับปากต่อหน้าศาลว่าจะไกล่เกลี่ยค่าจ้างทั้งหมดให้เรา ก็ถือว่าโอเค”
นายฉัตรมงคล ยืนยันว่าที่ผ่านมากลุ่มผู้รับเหมาไม่ได้รับการชำระค่าจ้างที่ค้างจ่ายกว่า 7 พันล้านบาทจาก UJV แต่อย่างใดจะมีบ้างก็บางรายที่ได้รับค่าจ้างบ้างแต่ก็น้อยมาก ทำให้ใน 1 ปีที่ผ่านมากลุ่มผู้รับเหมาต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก หลายบริษัทพยายามที่จะดิ้นรนหางาน ขณะที่พนักงานหลายบริษัทก็ต้องแยกย้ายกันไปเพราะบริษัทไม่มีเงินชำระค่าจ้าง จึงทำให้เหลือเพียงบางส่วนที่ยังต้องตามคดีกันต่อไป
ภาพ/ข่าว จารุ สุขศรี ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ชลบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง