“สำราญ นวลมา”อธิยายชัดๆ “ทำไมเยาวชนทำผิดถูกจับ แล้วกล้าก่อเหตุซ้ำอีก?”

ความบานปลายของพวกกลุ่มแก๊งก่อความไม่สงบในเขตพื้นที่ดินแดง เริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ปี 2564 เหล่านี้เรียกแทนกลุ่มตัวเองว่า “ม็อบทะลุแก๊ส” ซึ่งแยกตัวออกมาจากม็อบ 3 กีบ ที่เคยเรียกร้องประชาธิปไตย และมุ่งหมายที่จะปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

ระยะเวลา 2 เดือนกว่า ที่กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวแฟลตดินแดงและประชาชนระแวกใกล้เคียง ให้ต้องสูญเสียทรัพย์สิน และเผชิญกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน หมายรวมไปถึงการที่แก๊งเหล่านี้ ได้พกพาอาวุธอันตราย สารพัดรรูปแบบเข้ามาปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการบาดเจ็บสาหัส ทั้งตัวเจ้าหน้าที่เอง และแก๊งทะลุแก๊ส

เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติการจับกุม จะพบว่า กลุ่มแก๊งที่เข้ามาก่อเหตุ จะมีทั้งเยาวชน อายุ ไม่เกิน 15 ปี ยาวไปจนถึงอายุ 30 ปีปลายๆ …แต่ที่น่าฉงนสงสัย นั้นก็คือภูมิลำเนาบ้านเกิดตามบัตรประชาชนของผู้ถูกจับกุมหลายๆคนที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชน มีถิ่นฐานอยู่ในต่างจังหวัด โดยข้อมูลข่าวกรองระบุว่า เยาชนที่มาจากต่างจังหวัดเหล่านี้ส่วนใหญ่ เข้ามา เพื่อมุ่งหมายที่จะร่วมก่อเหตุกับแก๊งดินแดง และก่อนหน้านี้เคยเช่าพักอยู่ในแฟลตดินแดง แต่เมื่อถูกตำรวจกวาดล้างกดดัน ล่าสุดจึงพากันย้ายไปเช่าห้องพักย่านจตุจักร

และเมื่อได้ตรวจสอบประวัติจึงทราบว่า หลายคนที่เคยก่อเหตุ และถูกจับกุมแล้ว ยังกลับมาก่อเหตุใหญ่ จนถูกจับกุมซ้ำอีกครั้ง เหล่านี้กลายเป็นข้อกังขาที่ประชาชนอยากจะทวงถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ทำงานวันต่อวัน” ไม่ได้มีการตรวจสอบประวัติ หรือส่งรายชื่อผู้ก่อเหตุเหล่านี้ให้ศาลอายัดการประกันตัว จึงปล่อยให้เยาวชนออกมาก่อเหตุซ้ำหรือเปล่า

พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลกับทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงข้อกังขาดังกล่าวว่า “ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปด้วยความระมัดระวังเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ ยังเป็นเยาวชน

“สำหรับที่ตั้งคำถามว่า เยาวชน หรือผู้ร่วมก่อความวุ่นวายหลายรายทำไมตามบัตรประชาชนถึงมีถิ่นฐานมาจากต่างจังหวัดทั่วประเทศนั้น ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นการย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพถาวร แต่เป็นการชักจูงกันมาจากกลุ่มเพื่อนๆ และมาอยู่กันในลักษณะอาศัยพักในห้องเช่าของเพื่อน หรืออาจจะเช่าห้องอยู่บ้างประปราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาข่าวอยู่ตลอด”

พลตำรวจโท สำราญ นวลมา บอกด้วยว่า สำหรับเยาวชนที่เคยถูกจับแล้ว และมาก่อเหตุซ้ำเดิมอีก ทำไมตำรวจไม่ส่งเรื่องคัดค้านการประกันตัว แต่กลับปล่อยให้มาก่อเหตุซ้ำ นั้น เป็นเพราะว่าภายหลังการจับกุมก็จะส่งศาล และได้มีการตัดสินคดี แล้วมันก็จบคดีนั้นไป ซึ่งก็อยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลด้วย แต่ถ้ากลับมาก่อเหตุซ้ำก็ลงโทษซ้ำ คนไหนมีโทษจำรอไว้ พอโดนครั้งที่ 2 อันนี้ก็อาจต้องจำคุกในส่วนที่รอไว้ จึงต้องดูว่าศาลตัดสินในเคสนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาทำผิด และโดนโทษปรับอย่างเดียวก็มีมาก

“ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวอยากให้มองเยาวชน หรือผู้ร่วมก่อเห็น ในมุมตกเป็นมุมเหยื่อด้วย เรื่องบางเรื่องก็สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ ไม่อยากให้ตัดสินอะไรกันไปก่อน แต่ในด้านกฎหมาย ก็ดำเนินคดีกันต่อไป”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"แม่ทัพภาคที่ 2" ยืนยัน สถานการณ์ "ตาเมือนธม" ไม่บานปลาย จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ลั่นไม่ยอมให้ใครทำลายชาติ
"ศุภชัย เจียรวนนท์" สร้างเซอร์ไพรส์ในบทบาทผู้ประพันธ์เพลง "กตัญญู" คว้ารางวัลชนะเลิศบทเพลงคุณธรรมแห่งปี! จาก Thailand Moral Awards 2024
ประเดิมครม.ใหม่ "สภาฯล่ม" พรรคปชน.ปัดเกมการเมือง "ภูมิธรรม" ยันไม่กระทบเสถียรภาพ โยนวิปรัฐบาลแก้ปัญหา
มูลนิธิซีพี ร้อยเรียงความดี ตอบแทนคุณแผ่นดิน มอบโอกาสให้ทุนการศึกษา สร้าง “นักบริบาล” มืออาชีพ ส่งต่อสู่สังคม
MEA ย้ำความพร้อมดูแลระบบไฟฟ้าในช่วงพายุฝน พร้อมใส่ใจกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงอย่างใกล้ชิด
แฟนบอลช็อก "ดิโอโก้ โชต้า" นักเตะลิเวอร์พูล เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่สเปน
เหลี่ยมจัด “ฮุนเซน” แนะเจ้าของปั้มกัมพูชา หยุดซื้อน้ำมันไทย ให้นำเข้าจากแหล่งอื่น แต่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ
“เฉลิมชัย” สั่งการ อส. ปม. เร่งแก้ปัญหาชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 และ 121 พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน
ดิโอโก้ โชต้า นักเตะลิเวอร์พูลเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์
เริ่มแล้ว งานมหกรรมถนนอาหาร "อุดรเลิศรส" พร้อมเสิร์ฟเมนูเด็ด ทั้งอาหารคาว-หวานและเครื่องดื่ม สายกินต้องไม่พลาด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น