ตำรวจทางหลวงอยุธยา รวบ 2 หนุ่มกระบะคอก 2 คัน รับงานผ่านกลุ่มไลน์ ขนอะโวคาโด เถื่อนมูลค่านับล้าน เข้ากรุง คอตกอ้างไม่รู้แค่รับงานแลกเงิน 5 พัน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) ( ตำรวจทางหลวงอยุธยา ) นำโดย พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา รวมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และพ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาฯ จนมาถึง บริเวณ กม.50-51 ถนนพหลโยธิน(ขาเข้า) ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
พบรถยนต์กระบะคอก ต้องสงสัย 2 คัน บรรทุกสิ่งของมาเต็มท้ายรถมีน้ำหนักที่มากกว่ารถยนต์ปกติและปิดผ้าใบมิดชิด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงเรียกรถยนต์ ทั้ง 2 คัน ให้หยุดตรวจ คันที่ 1 รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีเทา หมายเลขทะเบียน บม 4813 ยโสธร มีนาย ทินกร ไชยโชติ ( เสื้อสีส้ม ) อายุ 22 ปี ชาวตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นคนขับ คันที่ 2 รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 7877 ศรีสะเกษ มี นาย สุทาดี พวงสุวรรณ ( เสื้อสีขาว ) อายุ 34 ปี ชาว ตำบลโพนค้อ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

ข่าวที่น่าสนใจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบสินค้าที่บรรทุกมา พร้อมตรวจเอกสารประกอบการขนส่งสินค้าดังกล่าว จากการตรวจสอบพบมี ผลอะโวคาโด สด อยู่ในตะกร้าสีดำ ซึ่งบรรทุกอยู่บนหลังรถยนต์กระบะ ทั้ง 2 คัน คันละประมาณ จำนวน 110 ตะกร้า รวม 220 ตะกร้า น้ำหนักรวมประมาณ 4,400 กิโลกรัม ( กิโลกรัมละ 300 ) รวมมูลค่าประมาณ 1,320,000 บาท โดยไม่มีเอกสารผ่านพิธีการศุลกากร และไม่มีเอกสารผ่านด่านกักกันพืช
จึงได้เชิญตัวมาตรวจสอบ ที่ สถานีตำรวจทางหลวงอยุธยา 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จากการสอบถาม นาย ทินกร ให้การว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 รับการประสานงานจากหญิงไทยใช้ชื่อเล่นว่า สา (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) โดยแจ้งผ่านทางกลุ่มไลน์ชื่อ โชคสุนิสาไทยแลนด์ ให้ตนไปรับสินค้าที่ จังหวัดมุกดาหาร เพื่อไปส่งปลายทาง จังหวัดปทุมธานี โดยให้ค่าจ้าง 5,000 บาท ต่อการขนส่งสินค้า 1 ครั้ง และไม่ทราบว่าเป็นสินค้าชนิดใด
จนกระทั่งขึ้นสินค้าบริเวณท้ายรถของตน จึงทราบภายหลังว่าเป็นสินค้า อาโวคาโด จากนั้นตนได้ขับขี่มาตลอดเส้นทางโดยไม่มีเอกสารใดๆแสดงขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบ โดยตนไม่ทราบว่ามีความผิดดังกล่าว และรับว่าขับขี่บรรทุกสินค้ามาจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและถูกจับกุม

จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะทั้ง 2 คน “ 1. เป็นผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประกาศใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้เป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.๒๕๖๐ ตามมาตรา ๒๔๖ ,2. พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. ๒๕๐๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สิ่งต้องห้ามดังกล่าวจะนำเข้าได้ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนและต้องปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรมวิชาการเกษตรประกาศกำหนด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ ประกอบมาตรา ๑๐ แห่ง พ.ร.บ.กักพืชฯ ” เชื่อว่า อะโวคาโด ทั้งหมดนำเข้ามาจากทางประเทศเวียดนาม ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้ามไม่สามารถนำเข้ามาจากประเทศเวียดนามได้ อะโวคาโด สามารถนำเข้าได้มีประเทศที่อนุญาต เครือรัฐออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู และก็ ประเทศจีน นอกนั้นยังไม่ผ่านวิเคราะห์ความเสี่ยง ก็ยังถือว่าไม่สามารถนำเข้ามาประเทศไทยได้ คือการนำ อะโวคาโด เถื่อนเข้ามา อันดับแรกเลย หัวใจสำคัญคือศัตรูพืชจากประเทศที่นำเข้ามาที่มีความรุนแรง จะติดมากับผลอะโวคาโด ทำให้ศัตรูพืชร้ายแรงเหล่านั้นมาระบาดในบ้านเราได้


เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงได้ยึดของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร  ผู้สื่อข่าว topnewsทั่วไทย จ.อยุธยา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมืองพัทยา เปิดตัวป้ายจอ LED วอล์คกิ้งสตรีทโฉมใหม่ สุดอลังการ ตอบโจทย์เมืองท่องเที่ยวระดับโลก
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 28
สงขลา เปิดม่าน “เมืองแห่งป้อมปราการสู่มรดกโลก”
เมืองคอนจัดโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน
ร้อยเอ็ด รมว.ท่องเที่ยว โชว์โดด “Zipline Roi Et Tower”แลนด์มาร์กสุดท้าทายใหม่แห่งอีสาน
เลย ประเมินตำบลยั่งยืนบ้านป่าเป้า ต.ปากปวน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​