“เอกนัฏ” ส่งทีมสุดซอย ทลายคลังสินค้าดัมพ์ตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ พบลักลอบขายสินค้าไม่มีมาตรฐาน

"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย ทลายคลังสินค้าดัมพ์ตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ พบลักลอบขายสินค้าไม่มีมาตรฐาน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าทีมสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายสุตตะนนท์ โสวนิตย์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 2 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สมอ. และ สภ.บ้านคลองสวน เข้าตรวจสอบโกดังของ บริษัท เทรนด์ คอมเมอร์ส อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 555/12 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พบสินค้านำเข้าจำนวนมากขายแบบทุ่มตลาด และเป็นสินค้าอยู่ในข่ายควบคุมของ สมอ. หลายรายการ ซึ่งไม่มีเครื่องหมาย มอก. เตรียมกระจายส่งขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า ขณะเข้าตรวจสอบพบพนักงานกำลังนำปลั๊กพ่วงไม่มี
มอก. แพ็คใส่ห่อเป็นพัสดุ เตรียมส่งขึ้นรถขนส่งสินค้าเพื่อจำหน่ายให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงสั่งหยุดและตรวจสอบสินค้าทั้งหมดภายในคลังสินค้าทันที พบสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการ ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และไม่ได้ขออนุญาตนำเข้าตามกฎหมาย เช่น ปลั๊กพ่วง เครื่องฟอกอากาศ พัดลม กระทะไฟฟ้า ของเล่น และก๊อกน้ำ เป็นต้น เจ้าหน้าที่ยังขยายผลไปตรวจสอบที่ตั้งของบริษัทซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการเดียวกัน พบว่าบริษัทฯ แอบซุกซ่อนสินค้าผิดกฎหมายเพิ่มอีกหลายรายการ เช่น ปลั๊กพ่วง ของเล่นอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดของทั้งหมด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 13,685,050 บาท

“วันนี้ได้ประสานกับตำรวจ สภ.บ้านคลองสวน เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว ฐานลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ปลอมเครื่องหมาย มอก. ซึ่งเป็นการกระทำที่ท้าทายกฎหมาย โดยหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จ้างบริษัทนี้พักสินค้าและร่วมกันขายสินค้าที่ไม่มี มอก. ด้วย ซึ่งโทษของการลักลอบนำเข้าสินค้าไม่มี มอก. มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปลอมเครื่องหมาย มอก. มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของแพลตฟอร์มออนไลน์จะมีความผิดฐานจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 

เนื่องจากของกลางมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท และพบความผิดปกติการจัดตั้งนิติบุคคลลักษณะเข้าข่ายเป็นนอมินี ที่มีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจทั้งบริษัทนำเข้า บริษัทจำหน่าย และราคาสินค้า ซึ่งเป็นไปตามบัญชีท้ายประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยชุดสุดซอยจะส่งข้อมูลหลักฐานทั้งหมดให้ดีเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 28
สงขลา เปิดม่าน “เมืองแห่งป้อมปราการสู่มรดกโลก”
เมืองคอนจัดโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน
ร้อยเอ็ด รมว.ท่องเที่ยว โชว์โดด “Zipline Roi Et Tower”แลนด์มาร์กสุดท้าทายใหม่แห่งอีสาน
เลย ประเมินตำบลยั่งยืนบ้านป่าเป้า ต.ปากปวน
ด่วน "กรมการปกครอง" แจงผลตรวจสอบ "หลวงพ่ออลงกต" ชื่อ-เลขบัตรประชาชน ตรงกับขรก.เสียชีวิตแล้ว ไม่เป็นความจริง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​