นครราชสีมา สวนสัตว์โคราชเปิดตัวสมาชิกใหม่ 2 สายพันธุ์ แก๊ง 3 ข้าว ลูกเสือเบงกอล และ ลูกมาร่า สุดน่ารัก

วันที่ 21 สิงหาคม 2568 นายธนชน เคนสิงห์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวดีกับสวนสัตว์นครราชสีมา ที่สามารถเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ลูกเสือโคร่งเบงกอล จำนวน 3 ตัว และ ลูกมาร่า จำนวน 2 ตัว สำหรับลูกเสือโคร่งเบงกอลเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 แบ่งเป็นเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 1 ตัว และได้รับการตั้งชื่อจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล 1.น้องข้าวตู(เพศผู้) 2.น้องข้าวสวย(เพศเมีย) 3.น้องข้าวเม่า(เพศผู้) และได้รับการตรวจสุขจากสัตวแพทย์ พบว่าสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์ดีมาก ซึง่ลูกเสือทั้ง 3 ตัว มีพ่อเสือชิ่อ ต้นกล้า แม่เสือชื่อ ต้นข้าว

โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ผู้ดูแล ได้นำลูกเสือโคร่งเบงกอลออกมาหน้าส่วนแสดงอาณาจักรผู้ล่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ รับวิตามินจากแสงแดดและเพื่อรองรับสวัสดิภาพด้านการจัดการสุขภาพสัตว์ ทั้งนี้ สวนสัตว์นครราชสีมา มีแผนที่จะนำลูกเสือเบงกอลทั้ง 3 ตัว ออกสู่ส่วนแสดงให้น้องๆ นักเรียน และนักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักอย่างใกล้ชิด ทุกวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ เวลา 13.30 น. – 14.30 น.

ข่าวที่น่าสนใจ

องค์การสวนสัตว์ฯ คว้ารางวัล ทรัพย์สินทางปัญญาดีเด่น ปี 2568

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชวนโหวตตั้งชื่อ ลูกหนูยักษ์คาปิบารา 3 ตัว ลุ้นรับตุ๊กตาสุดน่ารัก กะปิปลาร้า

วันแม่สุดคึกคัก สวนสัตว์โคราชใจดี เปิดให้เด็กเข้าฟรี 12 ส.ค.ส่วนผู้ใหญ่มีส่วนลด

สำหรับลูก “มาร่า” หรือ “พาตาโกเนียนมาร่า” เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ขณะนี้ยังไม่ทราบเพศ โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ทางเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยงดูได้นำออกมาอวดโฉมให้นักเรียนและนักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ มาร่าที่อยู่ในการดูแลภายในสวนสัตว์นครราชสีมา มีจำนวนทั้งหมด 4 ตัว เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว และ ลูกมาร่าที่เกิดใหม่ อีก 12 ตัว ซึ่งตามธรรมชาตินั้น มาร่าพบได้ในแคว้นพาตาโกเนียน ประเทศอาเจนตินาและประเทศปรากวัย อาศัยอยู่ในบริเวณทุ่งกว้างที่มีพุ่มไม้ขึ้นอยู่กระจัดกระจาย หรือในพื้นที่กึ่งทะเลทราย เป็นสัตว์ฟันแทะในตระกูลเดียวกับกระต่าย ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากคาปิบาร่าและบีเวอร์ ใบหน้าและหูมีรูปทรงคล้ายกระต่าย ส่วนลำตัวจะคล้ายกวางขนาดเล็ก มีนิสัยอ่อนโยน รักสงบ ออกหากินในเวลากลางวัน โดยจะกินพืช หญ้า ผลไม้ เปลือกไม้ และรากไม้

นายธนชน เคนสิงห์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสวนสัตว์นครราชสีมา มีภารกิจหลักในด้านการอนุรักษ์ วิจัย เพาะขยายพันธ์ สัตว์ป่า ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ ที่สำคัญของสวนสัตว์นครราชสีมา อีกทั้ง ยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชน เยาวชน ได้หวงแหนทรัพยากรสัตว์ป่าให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการจัดการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สวนสัตว์นครราชสีมา ได้ยึดหลักการจัดการสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสัตว์แต่ละชนิดสัตว์ตามหลัก 5 Domain Model อันประกอบด้วย 1. ด้านอาหารสัตว์ Animal Nutrition 2. ด้านสภาพแวดล้อม Animal Environment 3. ด้านสุขภาพสัตว์ Animal Healthy 4. ด้านพฤติกรรมสัตว์ Animal Behavior 5. ด้านสภาพจิตใจของสัตว์ Mental Stage
โดยหลักสวัสดิภาพสัตว์ 5 Domain Model ได้รับการยอมรับในระดับสากลซึ่งปรากฏในร่างปฏิญญาสากลว่าด้วยสวัสดิภาพสัตว์ (Universal Declaration on Animal Welfare) เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างประเทศในการยอมรับว่า สัตว์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มี ความรู้สึก ความต้องการของสัตว์นั้นต้องได้รับความเคารพรับรอง โดยเป็นความรับผิดชอบของมนุษย์ร่วมกัน.