ไทย–สิงคโปร์ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านคาร์บอนเครดิต ภายใต้ความตกลงปารีส

กดติดตาม TOP NEWS

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยและสิงคโปร์ ร่วมลงนามในข้อตกลงด้านคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ ภายใต้ข้อ 6 ของความตกลงปารีสระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ (Implementation Agreement Pursuant to Article 6 of the Paris Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of Singapore) โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายตัน ซี เหล่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านพลังงานและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประจำกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเป็นผู้แทนในการลงนาม

ข้อตกลงนี้มุ่งเน้นให้ทั้งสองประเทศสามารถดำเนินการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ (Internationally Transferred Mitigation Outcomes: ITMOs) จากการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDC) ร่วมกับนานาชาติ โดยมีส่วนสำคัญต่อการส่งเสริมมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศ และขับเคลื่อนไปสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมจากการดำเนินงานอย่างยั่งยืน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการยกระดับการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำของไทย ผ่านโครงการที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาอย่างหลากหลาย ทั้งด้านป่าไม้ พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนนวัตกรรมการดำเนินงานอื่นๆ ซึ่งจะสร้างโอกาสในการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลในอนาคต และจะทำให้ไทยมีความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางคาร์บอนเครดิตในภูมิภาคอาเซียนได้ในระยะยาว

ด้านนายตัน ซี เหล่ง กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า เป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ที่ยาวนานด้านการค้า การลงทุน และการพัฒนาที่ยั่งยืนของสองประเทศ พร้อมย้ำว่าข้อตกลงนี้จะช่วยผลักดันภูมิภาคอาเซียนให้สามารถพัฒนาและขยายโครงการคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูง และเปิดโอกาสใหม่ให้ภาคธุรกิจในตลาดคาร์บอน

การลงนามครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและสิงคโปร์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงบทบาทนำของทั้งสองประเทศในการร่วมกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสร้างเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืนให้กับภูมิภาคอาเซียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​