มูลนิธิ CP CONNEXT ED ขับเคลื่อนโครงการฯ ซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน

นครราชสีมา มูลนิธิซีพี-CONNEXT ED ซีพีเอฟ ผนึกกำลังขยายโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนขยายสู่ 1,000 โรงเรียน พร้อมเปิดตัว "EGG BUDDY" อาสาพนักงานมุ่งมั่นส่งต่อความรู้สู่โรงเรียนทั่วประเทศ

วันที่ 19 สิงหาคม 2568 – นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) นายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท นายวราราชย์ เรืองศรี ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส ซีพีเอฟ โดยมีนายชาญชัย พิงขุนทด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยจระเข้ ให้การต้อนรับ ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานราชการ คณะครูและนักเรียน ร่วมพิธีมอบโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน แก่โรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ.ชัยภูมิ จำนวนรวม 11 โรงเรียน ภายใต้การสนับสนุนโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED (คอนเน็กซ์ อีดี) โดยมี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อส่งเสริมโภชนาการที่ดีให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล งานจัดขึ้น ณ โรงเรียนบ้านห้วยจรเข้ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคลเครือเจริญโภคภัณฑ์และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ทางบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน โครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน กว่าหลายปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่าย CONNEXT ED ซึ่งเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของภาคธุรกิจกว่า 30 แห่ง ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการยกระดับ คุณภาพการศึกษาของเยาวชนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิและสระบุรี ที่เราให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่เพียงแค่การส่งมอบอาหาร แต่เป็นการมอบ”โอกาส” และ “องค์ความรู้” ที่เป็นหัวใจสำคัญของซีพีเอฟสู่โรงเรียนและชุมชน ความร่วมมือกับ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทในวันนี้ เป็นการรวมพลังที่สมบูรณ์แบบ มูลนิธิฯ มีประสบการณ์ยาวนาน ในการเข้าถึงและพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ ห่างไกล ขณะที่ ซีพีเอฟ มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารและและการเกษตรสมัยใหม่ เมื่อผสานสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน จะช่วยให้โครงการสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับนักเรียนทุกคน เพราะเราเชื่อมั่นว่า “การสร้างโอกาสที่ดีให้เด็กในวันนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญ ในการสร้างรากฐานที่มั่นคงของประเทศชาติในวันข้างหน้า” ทั้งนี้ นอกจากความรู้แล้วเรื่องโภชนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย เราจึงควรให้ความสำคัญควบคู่ไปด้วย กลุ่มธุรกิจ ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะเป็นครัวของโลก ที่ผลิตอาหารที่ดี สด สะอาด ให้กับทุกคนบนโลกนี้

 

 

ด้านนายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท หรือ มูลนิธิซีพี เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมการส่งมอบโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่ฯ ณ โรงเรียนบ้านห้วยจรเข้ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ในวันนี้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งโรงเรียน ที่ไม่ใช่เป็น เพียงการ “ให้” แต่เป็นการ “สร้าง” สร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนเข้าถึงโภชนาการที่ดี สร้างโอกาสการเรียนรู้นอกห้องเรียน สร้างโอกาสทักษะการค้าขาย การจัดจำหน่ายไข่ไก่ สร้างอาชีพรายได้ และสร้างโอกาสความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ สู่การเป็นผู้นำแห่งอนาคตของประเทศชาติในวันข้างหน้าซึ่ง มูลนิธิซีพี ร่วมกับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ดำเนินโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่ เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะ “ทุพโภชนาการ” และสร้างโภชนาการที่ดี ให้กับเด็กในพื้นที่ห่างไกล ปัจจุบัน ดำเนินการโครงการร่วมกับโรงเรียนกว่า 1,018 โรงเรียน กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทุกภาคของประเทศไทย มีเด็กนักเรียน ที่ได้บริโภคไข่จากโครงการนี้ ทุกๆ วันกว่า 230,000 คน รวมถึง คุณครู และ ชุมชนรอบ ๆ โรงเรียน ด้วยและเพื่อให้โครงการนี้ มีความยั่งยืน ไม่ใช่การที่มูลนิธิซีพี และซีพีเอฟ มาสร้างและมอบให้โรงเรียนแล้วก็จบไป ในทางกลับกัน ได้สร้างโมเดลความยั่งยืนโครงการลักษณะ “กองทุนหมุนเวียน” กล่าวคือ มูลนิธิซีพี และซีพีเอฟ จะเป็นผู้ลงทุนในชุดแรกทั้งหมดให้แก่โรงเรียน ได้แก่ การลงทุนโรงเรือน อุปกรณ์การเลี้ยง ไก่พันธุ์ไข่ และ อาหารไก่ ตลอดระยะเวลาชุดแรก ประมาณ 60 สัปดาห์ ให้แก่โรงเรียนโดยไม่มี ค่าใช้จ่าย , ภายหลังจากที่โรงเรียนได้รับโครงการชุดแรกนี้ไปแล้ว ทำการเลี้ยงไก่ไข่ ได้ผลผลิตในชุดแรก ก็ทยอยจำหน่ายเข้ากองทุนอาหารกลางวันโรงเรียน เงินรายได้ทั้งหมดในชุดแรกนี้ ก็จะเป็น “กองทุนหมุนเวียน” สะสม เพื่อเป็นกองทุนสำหรับการเลี้ยง ในรอบถัด ๆ ไป การดำเนินโครงการลักษณะนี้ ปัจจุบัน มีโรงเรียนที่ดำเนินโครงการนี้ยาวนานกว่า 20 ปี หลายร้อยโรงเรียน นอกจากนี้ ตลอดโครงการพี่ ๆ นักวิชาการด้านการเลี้ยงไก่ จะคอยแวะเวียนเข้ามาดูแล ให้ความรู้ และคำแนะนำแก่อาจารย์ และนักเรียน ตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการ.

 

 

 

ภาพ-ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครราชสีมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"วัดพระบาทน้ำพุ" แจงปมตึกร้าง ทิ้งของบริจาค ยืนยันเป็นของหมดอายุ อยู่ระหว่างทำความสะอาดบูรณาอาคาร
ม.ราชภัฏนครราชสีมา เปิดสนามประลองความคิดสร้างสรรค์ จุดไฟไอเดียเด็กเจนใหม่ สู่นวัตกรรมเพื่อชุมชนยั่งยืน
มาครงเสนอใช้สวิตเซอร์แลนด์จัดประชุมปูติน-เซเลนสกี้
กัมพูชาเตือนไทยปมขู่ใช้กม.เอาผิดสองพ่อลูกฮุน
อนาถใจ แม่วัย 59 ปี เร่ขายยาเสพติด เลี้ยงลูกทาสยา 2 คน นำส่วนกำไรแบ่งให้ลูกเสพ
นายกฯมาเลเซียต่อสายคุยฮุน มาเน็ต

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​