“กองทัพไทย” โต้กลับ “กัมพูชา” ยืนยันหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดชายแดนของใหม่ ไม่ใช่ของเก่า

กองทัพไทย ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีทุ่นระเบิดชายแดนไทย–กัมพูชา เป็นของใหม่ 100% สามารถตรวจสอบได้ ยันไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่ กพช. กล่าวอ้าง

“กองทัพไทย” โต้กลับ “กัมพูชา” ยืนยันหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดชายแดนของใหม่ ไม่ใช่ของเก่า – Top News รายงาน

กองทัพไทย

 

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568  เวลา 15.50น. พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนในสื่อออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชา เกี่ยวกับทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคม ดังนี้

จากเหตุการณ์ที่กำลังพลไทย 5 นาย ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ผลการตรวจพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 “ใหม่ทั้งหมด” ที่ถูกวางแบบพร้อมใช้งาน โดยมีการถอดอุปกรณ์ Safety และกลบพรางอย่างแนบเนียน สภาพทุ่นมีความใหม่ ตัวอักษรคมชัด และเมื่อรื้อถอนพบว่าสปริง เข็มแทงชนวน และชิ้นส่วนภายในอยู่ในสภาพใหม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ บริเวณภูมะเขือยังตรวจพบทุ่นระเบิดอยู่ในสองลักษณะ โดยลักษณะแรกคือทุ่น PMN-2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หางปลาหรือsafety pinยังคงติดอยู่ครบถ้วน สะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชามีทุ่นชนิดนี้ไว้ครอบครองเพื่อเตรียมใช้งาน ซึ่งถือว่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยตรง และมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าทุ่นเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริงในหลายพื้นที่ รวมถึงกรณีที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกลักษณะหนึ่งเป็นทุ่นที่รื้อถอนขึ้นจากพื้นดินในสภาพที่ถูกวางใช้งานแล้ว อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน บางลูกมีร่องรอยของเข็มแทงชนวนที่เริ่มทำงานแต่ยังไม่สมบูรณ์ การรื้อถอนดำเนินการโดยทหารราบเพื่อรวบรวมไว้ และต่อมาส่งให้เจ้าหน้าที่ TMAC มาดำเนินการนิรภัยและทำลายตามมาตรฐานสากล โดยทุกครั้งที่ทำการนิรภัย เจ้าหน้าที่จะต้องถอดตัวจุดระเบิดและ Booster ออกเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันอันตราย

ในส่วนของความโปร่งใส ประเทศไทยได้ดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด โดยพื้นที่ช่องบกและช่องอานม้าที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่ที่ TMAC เคยกวาดล้างทุ่นระเบิดแล้ว 100% และมีการรายงานต่อที่ประชุมอนุสัญญาทุกปี โดยไม่เคยพบทุ่น PMN-2 แต่อย่างใด ขณะเดียวกันประเทศไทยไม่เคยมีทุ่นชนิดนี้อยู่ในครอบครอง และได้ทำลายทุ่นระเบิดคงคลังทั้งหมดตั้งแต่ปี 2546 รวมถึงครั้งสุดท้ายในปี 2562 โดยไม่มี PMN-2 อยู่ในบัญชีแม้แต่ลูกเดียว ในทางกลับกัน เอกสารรายงานต่ออนุสัญญาออตตาวา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2024 ระบุชัดเจนว่ากัมพูชายังคงครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 และชนิดอื่น ๆ รวมกว่า 3,700 ลูก โดยอ้างว่าเก็บไว้เพื่อการฝึกตามมาตรา 3 ของอนุสัญญาฯ แต่การลักลอบนำทุ่น PMN-2 มาวางในเขตอธิปไตยของประเทศไทย ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาอย่างร้ายแรงและสามารถเอาผิดได้ตามกฎหมายระหว่างประเทศ

 

กองทัพไทย โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอเน้นย้ำว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ตรวจสอบได้จากหลักฐานทางเทคนิคและการพิสูจน์โดยตรง ยืนยันชัดเจนว่าทุ่นระเบิดที่ทำให้กำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บ เป็นทุ่นระเบิดใหม่ชนิด PMN-2 ที่ฝ่ายกัมพูชาลักลอบนำมาวางในพื้นที่ชายแดนไทย ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่มีการกล่าวอ้าง เหตุการณ์นี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาและเป็นการกระทบต่ออธิปไตยของประเทศไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปราบสายแว้นท่อดัง
"ผบช.น." สั่งสอบปมคลิปว่อนโซเชียล บ่อนพนัน ย่านหทัยราษฎร์-คลอง 15 ตั้งข้อสังเกตขบวนการแฉ เรียกรับเงิน
โพลนักธุรกิจอัดพรรคใหญ่ขัดแย้งสูง ห่างเหินธุรกิจรากหญ้า ทำคนเบื่อหันเทใจพรรคใหม่
คุมเข้มเต็มกำลัง "ทหารไทย" ขึงสแลน-ติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม จุดชายแดนสระแก้ว หลังทหารเขมรเกณฑ์ชาวบ้านก่อม็อบป่วน
"กองทัพไทย" โต้กลับ "กัมพูชา" ยืนยันหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดชายแดนของใหม่ ไม่ใช่ของเก่า
เปิดจดหมายถึง "ลุงกุ้ง" ขวัญใจเด็กสาธิตเกษตร ส่งกำลังใจ อีก 1 เดือนได้พัก แต่ความรักประเทศ ไม่มีพักแน่นอน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​