ชาวสงขลา ร่วมใจดัน “ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา” ชูของดีท้องถิ่น มาตรฐาน GI เพิ่มรายได้เกษตรกร
ข่าวที่น่าสนใจ
‘ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา’ วัตถุดิบขึ้นชื่อและได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI หรือสินค้าตามแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เพราะนอกจากจะขึ้นชื่อในแง่ของรสชาติแล้ว ความพิเศษของทะเลสาบสงขลาที่ทำให้ได้ชื่อว่า เป็นปลาสามน้ำ มาจากกระแสน้ำขึ้น น้ำลง ที่ทำให้น้ำทะเลสาบมีภาวะเป็นทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย หมุนเวียนตลอดทั้งปี ปลาจากที่นี่จึงมีความพิเศษกว่าทั่วไป เพราะจะมีเนื้อแน่น นุ่ม มัน ไม่คาว รสชาติดี เนื้อปลามีสีขาว มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แบ่งเป็นส่วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหางที่จะมีคอลลาเจนสูง ส่วนเนื้อกลางจะมีโอเมก้า ราวท้องของปลาจะมีไขมันดี จึงเป็นที่ต้องการและกลายเป็นวัตถุดิบที่สร้างรายได้สำคัญให้แก่ชุมชนประมงท้องถิ่น
นายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา ถือเป็นปลาเศรษฐกิจ ที่มีคุณภาพและลักษณะพิเศษ อันเป็นผลมาจากปัจจัยสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ และระบบนิเวศของทะเลสาบสงขลา และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย หรือเรียกโดยทั่วไปว่าเป็น “สินค้า GI” มีรสชาติที่อร่อยกว่าปลากะพงที่เลี้ยงในพื้นที่อื่น โดยในจังหวัดมีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงในกระชังรวม 1,213 ราย จำนวน 4,740 กระชัง ในจำนวนนี้ 961 ราย จำนวน 3,788 กระชัง อยู่ในทะเลสาบสงขลา ผลผลิตรวมของปลากะพงขาวในจังหวัดอยู่ที่ประมาณ 3,100 ตันต่อปี (ข้อมูลปี 2567) และมีองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นผู้เลี้ยงปลากะพงขาวจำนวน 24 กลุ่ม รวมสมาชิก 614 ราย
หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จคือ “กลุ่มรักเกาะยอ” ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังทะเลสาบสงขลา หมู่ 4, 5 และ 8 ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา จำนวน 32 ราย ใช้พื้นที่เลี้ยงรวม 4.13 ไร่ จำนวน 294 กระชัง ผลผลิตเฉลี่ยปีละ 96 ตัน สร้างรายได้รวม 15.4 ล้านบาท ทางกลุ่มฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP และได้พัฒนาเป็นจุดจำหน่ายปลากะพงสดและอาหารทะเลอื่นๆ มีการจำหน่ายทั้งแบบหน้าท่า ส่งตรงให้พ่อค้า-ร้านค้าในพื้นที่ ขายออนไลน์ และจัดแสดงสินค้า นอกจากนี้ ยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการตลาดกับกลุ่มผู้เลี้ยงปลากะพงอื่น ๆ ในเกาะยอ เพื่อควบคุมราคาจำหน่ายให้เหมาะสมและยั่งยืน โดยปัจจุบันกลุ่มรักเกาะยอได้ขึ้นทะเบียน “GI ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา” ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
นางจีรวัฒน์ ชุตินธร ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักเกาะยอ กล่าวว่า จุดเด่นของปลากะพงที่นี่คือ ขนาดใหญ่ 3 กิโลกรัมขึ้นไป เนื้อขาวนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว และมีการแปรรูปหลากหลาย ทั้งการเชือดปลาแบบ อิเคะจิเมะ ผลิตภัณฑ์รมควัน แล่แช่แข็ง และแบบ Finlet หรือการเลาะเนื้อบรรจุสุญญากาศ โดยราคาจำหน่ายปลาสดแล่ ขนาด 4–7 กิโลกรัม อยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ขนาด 2–3 กิโลกรัม อยู่ที่กิโลกรัมละ 190 บาท ส่วนแบบ Finlet เริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 250 บาท ทั้งนี้ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามกลไกตลาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น