นาทีสุดท้าย “สหรัฐ” ยอมรับเงื่อนไข “ทีมไทยแลนด์” ปรับลดอัตราภาษีนำเข้า เหลือ 19% มีผล 1 ส.ค.68

รัฐบาลยันไทยปิดดีลภาษีสหรัฐ 19 % เผยมีผลบังคับใช้ทันทีวันนี้ ชี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ในแนวทาง win-win

นาทีสุดท้าย “สหรัฐ” ยอมรับเงื่อนไข “ทีมไทยแลนด์” ปรับลดอัตราภาษีนำเข้า เหลือ 19% มีผล 1 ส.ค. 68 – Top News รายงาน

 

เมื่อเวลา07.00น วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐฯ สำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งการปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง win-win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวความ ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ

 

 

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2568 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เผยแพร่จดหมายแจ้งอัตราภาษีนำเข้าใหม่ที่ส่งให้แก่ประเทศคู่ค้า 14 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยบางประเทศมีอัตราภาษีลดลงหรือเพิ่มขึ้น จากอัตราที่เคยประกาศเมื่อ 2 เม.ย. แต่ไทยยังถูกเก็บที่ 36% เท่าเดิม ต่างจากลาว, เมียนมา และกัมพูชา ที่ปรับลดลง

 

โดย ลาว 40% (ลดลง 8% จากเดิม 48%)

เมียนมา 40% (ลดลง 4% จากเดิม 44%)

กัมพูชา 36% (ลดลง 13% จากเดิม 49%)

ไทย 36% (เท่าเดิม)

บังกลาเทศ 35% (ลดลง 2% จากเดิม 37%)

เซอร์เบีย 35% (ลดลง 2% จากเดิม 37%)

อินโดนีเซีย 32% (เท่าเดิม)

บอสเนียและเฮอร์เซโกวินา 30% (ลดลง 5% จากเดิม 35%)

แอฟริกาใต้ 30% (เท่าเดิม)

ญี่ปุ่น 25% (เพิ่มขึ้น 1% จากเดิม 24%)

คาซัคสถาน 25% (ลดลง 2% จากเดิม 27%)

มาเลเซีย 25% (เพิ่มขึ้น 1% จากเดิม 24%)

เกาหลีใต้ 25% (เท่าเดิม)

ตูนิเซีย 25% (ลดลง 3% จากเดิม 28%)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"GILF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย ขยายผล เตรียมส่งดีเอสไอ ฟันเครือข่ายลักลอบฝังกลบขยะพิษในที่ดิน 2 แปลง จ.ฉะเชิงเทรา รวมกว่า 70,000 ตัน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​