ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลฯ แจงยังรับ “ผู้ป่วยกัมพูชา” เคสฉุกเฉิน แค่ปรับภารกิจบริการ OPD ย้ำช่วยเหลือยึดหลักมนุษยธรรม

ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลฯ แจงยังรับ "ผู้ป่วยกัมพูชา" เคสฉุกเฉิน แค่ปรับภารกิจบริการ OPD ย้ำช่วยเหลือยึดหลักมนุษยธรรม

ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลฯ แจงยังรับ “ผู้ป่วยกัมพูชา” เคสฉุกเฉิน แค่ปรับภารกิจบริการ OPD ย้ำช่วยเหลือยึดหลักมนุษยธรรม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

31 ก.ค.2568 นายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ชี้แจงกรณีโรงพยาบาลได้ออกหนังสือประกาศเรื่อง ขอยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารชาวกัมพูชา และการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชาว่า เป็นหนังสือที่สื่อสารภายในเพื่อปรับระบบบริการ เพราะโรงพยาบาลซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีสถานการณ์ จึงต้องปรับภารกิจในเวลานี้ เพื่อเน้นระดมทรัพยากรมาดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บมาจากชายแดน ดังนั้นโรงพยาบาลจึงได้สื่อสารภายในว่าเราจะลดภารกิจที่ไม่จำเป็นลง หนึ่งในนั้นคือ โอพีดีพรีเมียม นับตั้งแต่เมื่อมีสถานการณ์ตั้งแต่ 24 กรกฏาคม โรงพยาบาลเห็นว่าผู้ป่วยโอพีดีลดลงมาก เหลือ 1-2% เท่านั้น จึงปรับการสื่อสารภายในตามหนังสือที่ปรากฏในข่าว แต่กลับมีการสื่อสารนอกวง ทำให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน

 

 

ซึ่งตนเน้นย้ำว่าหลักคิดและหลักปฏิบัติของชาวโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ 1.เรื่องมนุษยธรรม โรงพยาบาลยังรับผู้ป่วย ถ้าหากมีความจำเป็น ชาวกัมพูชาไม่ว่าตอนนี้จะอยู่ในพื้นที่หรืออาจจะมาจากพื้นที่อื่นๆ แล้วจำเป็นต้องเข้าถึงระบบบริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะฉุนเฉิน เราก็มีช่องทางในการดูแลและรับผู้ป่วยเหล่านี้อยู่ ส่วนผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่รักษาอยู่ในขณะนี้ โรงพยาบาลก็ยังดูแลเช่นเดิม ยืนยันโรงพยาบาลยังยึดหลักมนุษยธรรม ไม่ว่าเชื้อชาติไหน โรงพยาบาลยังเป็นที่พึ่ง 2.ความปลอดภัย สถานที่ของโรงพยาบาลเราต้องยึดให้เป็นที่พึ่งกับเขตบริการสุขภาพและภูมิภาคแห่งนี้ เพื่อเป็นหลักในการดูแลรักษาพยาบาล ประกอบกับเมื่อวันที่ 28 กรกฏาคมที่ผ่านมา มีอากาศยานอยู่เหนือพื้นที่ใกล้เคียง จึงต้องระวังความเสี่ยง ทำให้เป็นที่มาของการต้องดูแลเรื่องญาติและล่ามของผู้ป่วย เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยด้วย เช่นเดียวกับความปลอดภัยของบุคลากรเราก็ให้ความสำคัญ

ผอ.โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์กล่าวงอีกว่าสิ่งที่ปรากฏในโซเชียลในขณะนี้ มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลต้องยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ดูแลรักษาประชาชนไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ทหาร ไม่ว่าเชื้อชาติใดก็แล้วแต่ ยังยึดหลักมนุษยธรรม และประเมินความปลอดภัยไปในตัวด้วย

 

นอกจากนี้โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยังออกแถลงการณ์ว่า จากประเด็นการเผยแพร่ภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับหนังสือแจ้งเวียนภายในโรงพยาบาล เรื่อง “การยกเลิกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา” และมีการแชร์ตามสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทางโรงพยาบาลจึงขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

 

1.โรงพยาบาลให้การดูแลผู้ป่วยกัมพูชา เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม
-ผู้ป่วยรายเดิมที่ยังนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ให้บริการโดยปกติให้เหมาะสมกับสถานการณ์
-งดรับยาแทน เนื่องจากมีข้อจำกัดการจัดส่งยาข้ามแดน ทำให้มียาตกค้างจำนวนมาก
-ผู้ป่วยกัมพูชารายใหม่ พร้อมให้บริการตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน

2.โรงพยาบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ญาติ และบุคลากรโรงพยาบาล

3. โรงพยาบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของสถานที่และบริเวณใกล้เคียง ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นพื้นที่ชายแดน

4.การให้บริการของโรงพยาบาลในสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทำให้ต้องปรับการให้บริการที่ไม่เร่งด่วนบางประการลง เช่น การเลื่อนผ่าตัดกรณีที่ไม่ฉุกเฉิน งดบริการคลินิกพิเศษเฉพาะทางนอกเวลาราชการ ซึ่งเป็นการบริหารทรัพยากรภายในเพื่อปรับภารกิจและรูปแบบการให้บริการ

5.การปฏิบัติงานของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา หรือ ล่าม งดปฏิบัติงานชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ป่วยชาวกัมพูชาจำนวนน้อยมาก ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โคราช ระเบิดศึกอีสปอร์ต KORAT PAO E-SPORTS TOURNAMENT 2025 เฟ้นหาดาวเด่น ROV-eFootball สู่เวทีระดับประเทศและนานาชาติ
"พงศ์พร" ถามเป็นประโยชน์ตรงไหน ก.พ.ดันตำแหน่ง "ผอ.สำนักพุทธฯ" เทียบเท่าปลัดกระทรวง
"ธรรมนัส" ลั่นกล้าธรรม พร้อมร่วม "ก.เกษตรฯ" ปกป้องผลประโยชน์เกษตรกรไทย โดนผลกระทบเงื่อนไขสหรัฐใช้ลดภาษี
“สถานทูตสวีเดน” แจงชัด ไม่มีนโยบายระงับการจำหน่าย “กริพเพน” ให้ไทย หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิกส์ “สถานทูตสวีเดน” แจงชัด ไม่มีนโยบายระงับการจำหน่าย “กริพเพน” ให้ไทย หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิกส์
ศรึสะเกษ เจ้าของร้านใจดี เปิดบริการ ซัก-อบ 'ฟรี' ช่วยผู้อพยพจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา และทหาร
เปิดปฏิบัติการ “No Drugs ~ No Dealers”  ปิดล้อม 73 จุด 11 อำเภอ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​