“นายกอิ๊งค์” โต้ปมปะทะ 2 ประเทศ ไม่ใช่ศึก 2 ตระกูล ลั่นติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด มั่นใจเหตุผู้นำกัมพูชาไม่พอใจ เพราผลงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

"นายกอิ๊งค์" โต้ปมปะทะ 2 ประเทศ ไม่ใช่ศึก 2 ตระกูล ลั่นติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด มั่นใจเหตุผู้นำกัมพูชาไม่พอใจ เพราผลงานปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“อิ๊งค์” อึดอัด ร่ายยาวเหตุ “ชินวัตร” ถูกโยงต้นเหตุสงครามชายแดนไทย-เขมร ลั่นเป็นเพราะแตะปราบคอลเซนเตอร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตเขมรสั่งเด็กหยุดเรียนวันปะทะ เผย “บิ๊กเล็ก” ยันอาวุธไทยพร้อม ย้ำรัฐบาล-กองทัพ-สู้ไม่ถอย ยันชินวัตรไม่ช้ำ หลังเจอข้อครหา 2 ตระกูลจุดชนวนสงคราม ย้อนถามสื่อ ยังเชื่อข่าวกัมพูชาอีกหรือ? หลังถูก นำภาพคู่ มทภ.2 แขวนประณาม ขอบคุณข้อเสนอฝ่ายค้าน รวบหลักฐานฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ ฮุนเซน เป็นอาชญากรรมสงคราม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่กระทรวงวัฒนธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ประชุมติดตามมาตรการการรับมือและการช่วยเหลือของกระทรวงวัฒนธรรม ในการร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยจัดการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด

ต่อมาเวลา 15.30 น. น.ส.แพทองธาร แถลงว่า วันนี้จะมาขอย้ำและยืนยันในเรื่องการแถลงการณ์ของรัฐบาลที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ถึงการกระทำของกัมพูชาเราถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ตนขอย้ำอีกครั้งซึ่งวิธีการต่างๆขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ ขัดเรื่องมนุษยธรรมที่ประเทศไทยปฏิบัติมาตลอด ทางกัมพูชาก็ขัดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ความรุนแรงเป็นสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำมาโดยตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของพี่น้องประชาชน นี่คือสิ่งที่เรายึดถือและพยายามอย่างที่สุดไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนกระทั่งฝ่ายกัมพูชาได้มีการยิงก่อนเมื่อวันที่ 24 ก.ค. และมีสำนักข่าวต่างประเทศหลายช่องทางตั้งข้อสังเกตที่เป็นหลักฐานที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียได้ว่าวันนั้นนักเรียนในโรงเรียนจังหวัดชายแดนของไทยยังไปเรียนปกติ ซึ่งสื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าประเทศไทยรู้ว่าจะยิงก็คงให้หยุดเรียนแล้ว แต่ว่าทางกัมพูชารู้หรือไม่ว่าจะมีการยิงแบบนี้เกิดขึ้นเด็กนักเรียนถึงหยุดเรียน นี่ถือเป็นข้อสังเกตอีกข้อหนึ่ง

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้ตนจะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ก็ได้มีการรับฟังอัพเดทสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและมีความเป็นห่วงพยายามที่จะติดตามโดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ได้พบคณะรัฐมนตรีช่วงที่ไปบันทึกเทป ซึ่งได้มีการสอบถามถึงสถานการณ์กับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ซึ่งตัวรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องของอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของประเทศไทยว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรามีพร้อม ทั้งนี้การที่เราได้ใช้ F16 ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ตอบโต้เพราะทางกัมพูชามีการยิงเข้าถึงแหล่งชุมชนที่มีทั้งลูกเด็กเล็กแดงอยู่ และเกิดผลกระทบกับชีวิต จริงๆ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป รัฐบาล กองทัพ ฝ่ายความมั่นคง จะประสานงานอย่างต่อเนื่องและดูเรื่องนี้อย่างรอบคอบทุกขั้นตอน ตอนนี้ถ้าถามว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อก็ต้องปล่อยให้ทางหน้างานดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อ แต่แน่นอนว่าเราจะพยายามให้ถึงที่สุดในการปกป้องอธิปไตยของเรา เพราะเราไม่เคยเริ่มก่อนเรายืนยันเสมอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาว่าเราไม่ต้องการความรุนแรง แต่ว่าเมื่อความรุนแรงมาถึงเราก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน นี่คือสิ่งที่รัฐบาล กองทัพ คุยกันและเน้นย้ำว่าไม่ต้องห่วง เราไม่ถอยจะสู้เต็มที่

 

 

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศได้แสดงหลักฐานความไม่ชอบธรรมของทางกัมพูชา ทั้งการละเมิดสนธิสัญญาหลักกฏหมายระหว่างประเทศ หลักสิทธิมนุษยชน และความไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบวางระเบิดซึ่งก่อนหน้านี้ทหารสองประเทศไทยและกัมพูชาได้มีการร่วมกันลาดตระเวนค้นหาระเบิดเก่าแต่ได้หยุดไป แต่ล่าสุดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทหารได้รับบาดเจ็บซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดที่มีการวางใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดหลักมนุษยชน ผิดหลักกฏหมายระหว่างประเทศอย่างยิ่ง ไม่มีประเทศไหนเขาทำกันแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้มีหลักฐานครบถ้วนและกระทรวงการต่างประเทศได้ไปบอกให้ทั่วโลกได้รับทราบ และมีการยืนยันจากสื่อในหลายๆประเทศเขาเชื่อในสิ่งที่เราพูด เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยพูดความจริงในเรื่องนี้มาโดยตลอดและยืนยันในจุดยืนมาโดยตลอดว่าเราไม่ต้องการความรุนแรง เราไม่อยากให้เกิดความรุนแรง และเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าความรุนแรงครั้งนี้กัมพูชาเป็นคนเริ่มร้อยเปอร์เซ็นต์

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จากสถานการณ์นี้ตนสนับสนุนให้คนไทยมีความสามัคคีกันในชาติ วันนี้เราทะเลาะกันในประเทศถึงระดับหนึ่งแต่วันนี้เราต้องรักกันและทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ถ้าเหตุการณ์สงบสุขเมื่อไหร่ความขัดแย้งภายในประเทศยังรอได้ แต่วันนี้รอไม่ได้แล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมมือกันจากทุกฝ่ายและทุกภาคส่วนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยรักกันเองมาก

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในส่วนคำครหามากมาย ที่วิถีทางการเมืองพยายามใช้การปลุกปั่น เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง มีการเชื่อมโยงว่าสองตระกูลทะเลาะกัน แต่จำกันได้หรือไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ตนได้มีการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง โดยได้สั่งการผ่านกระทรวงมหาดไทย ให้ตัดน้ำ ตัดไฟตั้งแต่ชายแดน ลาวกับพม่า และทำให้ได้ผลจริงๆ คอลเซ็นเตอร์ที่โทรหาประชาชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และมูลค่าความเสียหายที่ประเมินตัวเลขได้เยอะมาก ประชาชนที่ถูกหลอก จนต้องจบชีวิตตัวเอง หรือเงินหายไปจากบัญชีอย่างรวดเร็ว

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ซึ่งประเทศไทย ลาวและพม่าได้ทำภาคีร่วมกัน เพื่อจะฝากแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ตนก็เกิดความสับสน เพราะตอนนั้นตนก็ยังติดต่อกับทางกัมพูชาในเรื่องสัมพันธ์ส่วนตัว และได้รับแจ้งจากคนที่แปลว่า เขาโกรธ ที่ไม่ปรึกษาเรื่องนี้กับทางกัมพูชา ตนจึงโทรไปคุยส่วนตัวซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ถูกอัดเสียง ตนไม่ทราบว่า เป็นการเสียผลประโยชน์หรือไม่ เพราะเรื่องแก้ปัญหายาเสพติดและปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์เป็นหน้าที่รัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อได้คุยกันแล้วก็ทราบว่า กัมพูชาไม่พอใจที่ไม่เชิญไปร่วมด้วย ตนก็เลยตอบกลับไปว่าจะบวกกัมพูชาร่วมไปด้วย แต่ทางกัมพูชากลับบอกว่าไม่ต้องบวก ให้มาทำกันแค่สองประเทศพอ(ไทยกับกัมพูชา) ตนจึงให้ดำเนินการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ดังนั้นเมื่อพอกลับมานึกย้อน ก็รู้ว่าเป็นการแสดงความไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็ไม่คิดว่าความไม่พอใจนี้ เป็นความไม่พอใจในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เพราะตนไม่เคยทราบเลยว่าจะมีประเทศใดไม่พอใจ เมื่อประชาชนถูกหลอกและเอารัฐบาลมาช่วย ก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ จึงทำให้รู้สึกว่าเราคงไปขัดผลประโยชน์บางอย่าง หรือไม่ จึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตนก็ไม่แน่ใจ ซึ่งตนก็มั่นใจว่า รัฐบาลที่เข้ามาไม่ว่าจะใช้ตระกูลชินวัตรหรือไม่ ก็ต้องปราบเรื่องนี้เพราะเป็นผลกระทบต่อคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปราบเช่นเดียวกับยาเสพติด ไม่ทำก็ไม่ได้

เมื่อถามว่าการที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชารอไม่ได้ แต่ปัญหาการเมืองรอได้ หมายถึงหากจบปัญหาชายแดนจะปลดชนวนระเบิดการเมืองภายในประเทศด้วยตนเองใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร อธิบายว่า ตนหมายความว่า หาโอกาสทำร้ายฝั่งตรงข้ามทางการเมืองมาตลอด ตนเข้าใจการเมือง เพราะเคยเป็นฝ่ายค้านและวันนี้มาเป็นรัฐบาล ตนเข้าใจคู่แข่งมีทุกพื้นที่อยู่แล้ว แต่อยากจะเชิญชวนให้มาปกป้องกันเองก่อนเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน การที่เราปกป้องตัวเองก่อน ให้เขาเห็นว่าประเทศเราแข็งแรงมันเป็นสิ่งที่ดี เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรารายงานทุกสิ่งทุกอย่าง แต่การจะหาข้อมูลจากกัมพูชาก็เป็นไปได้ยากเหมือนกัน เพราะเขาคุมสื่อได้หมดหรือไม่ เขาคุมทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศเขาทั้งหมดได้หรือไม่ ก็ต่างกันแบบนี้เพราะจริงๆแล้ว ประเทศประชาธิปไตย เขาไม่ได้คุมสื่อหรืออะไรแบบนี้ แต่อยากบอกว่าขอให้รายงานสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศให้ได้มากที่สุด อยากให้ทุกคนร่วมมือกัน ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นการเมืองมากกว่านี้ การเมืองฝั่งตรงข้าม ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล สู้กันมาเสมอว่าเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ แต่เราจะต้องไม่สู้กันเอง จะต้องแข็งแรงเพื่อสู้กับประเทศที่เราเคยคิดว่าเขาเป็นเพื่อน เราต้องสู้ตรงนั้น

 

 

ส่วนที่สื่อของกัมพูชานำเสนอภาพ ของนายกรัฐมนตรีและพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ขอให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศจดจำว่า 2 คนนี้ เป็นต้นเหตุของสงคราม นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า เราจะเชื่อในสิ่งที่กัมพูชาเสนออีกนานหรือไม่ อย่างเรื่องของตน เขาโพสต์ปล่อยคลิป แล้วเขาก็มาบอกว่าไม่ได้ปล่อย เขาอาจจะโพสต์รูปสาวสวยๆ แต่บอกว่าไม่ได้โพสต์ก็ได้ ไม่ได้ทำไปแล้วก็บอกว่าไม่ได้ทำทุกอย่าง เขาก็มีฉายาอยู่แล้ว Cambodia มีฉายา ซึ่งทั่วโลกก็ตั้งให้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะถ่ายมือ และส่ายศีรษะปฏิเสธว่า ” ดิฉันไม่ได้ตั้งให้” ก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแบบนั้น ตนจึงคิดว่าเราต้องมั่นใจ อย่าคิดว่าต้องใช้อารมณ์ ว่าเพราะต้องคนนั้นคนนี้ มันเกิดขึ้นเพราะกัมพูชา และเกิดขึ้นเพราะเราปราบคอลเซ็นเตอร์ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เราอย่าทำให้ขมุกขมัว มันก็อยู่ที่เรา ซึ่งตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่ใช่ตระกูลชินวัตร เข้ามาทำ ก็ต้องปราบคอลเซ็นเตอร์ ก็ต้องปราบยาเสพติด ปรับอบายมุขเช่นกัน เพราะนี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ ก่อนย้ำว่าตนไม่เสียใจเลยที่ทำการปราบคอลเซ็นเตอร์ เพราะนั่นช่วยคนได้เยอะมาก ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และได้ผลจริงๆ ตนคิดว่าไม่ใช่แค่ประเทศเราไม่เสียใจเรื่องนี้ ทุกประเทศก็คิดแบบนี้ ยกเว้นประเทศที่เสียผลประโยชน์เท่านั้น

เมื่อถามว่าครั้งนี้ถือว่า”ชินวัตร” ช้ำหนักหรือไม่ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่คิดว่า”ชินวัตร” ช้ำหนัก ในเรื่องนี้เลย เพราะเราทำเพื่อประเทศ การถูกบิดทางการเมือง ถูกใส่ความ ตนจึงอยากให้หยุดเรื่องนี้ก่อน เพราะมันไม่ใช่ เพราะตั้งแต่สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ส่วนตัวดีมาก แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นนายทักษิณก็เอาเรื่องของประเทศมาก่อนอยู่ดี ไม่มีการบอกว่าเป็นเพื่อนกันไม่ทำร้ายกัน แต่ต้องเอาเรื่องของประเทศก่อน

ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านเสนอว่า ให้นำเรื่องสมเด็จฯ ฮุนเซนขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ ฐาน อาชญากรรมสงคราม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกฝ่ายแนะนำเรื่องระหว่างประเทศเข้ามา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศต้องรับไปพิจารณา ว่ามีเรื่องใดที่เหมาะสม หรือควรทำซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็ประสานเรื่องนี้อยู่ ซึ่งตนก็ได้รับการรายงานจากรัฐมนตรี ตนก็เป็นห่วงและได้โทรคุยบ้าง แต่แผนการในช่วงนี้ขอให้ถามไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เพราะตนต้องขอตอบแค่ในส่วนกระทรวงวัฒนธรรม แต่ครั้งนี้เป็นเพียงการเน้นย้ำข้อความของรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่แถลงไปเมื่อวานนี้ และอธิบายว่าขณะที่ตนทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากนี้ไปคงไม่เหมาะสมที่จะพูดอะไร

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังปฏิเสธการตอบคำถามว่าเหตุปะทะชายแดนไทย – กัมพูชาจะยืดเยื้อออกไปหรือไม่เนื่องจากขณะนี้มีการขยายวงกว้างพื้นที่การปะทะ มายังภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดสระแก้ว และตราดแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โฆษกกองทัพไทย" เผยไทม์ไลน์ ทหารกัมพูชา เริ่มยิงใส่ไทยก่อน ตั้งแต่ 4.30 น. ปราสาทตาควายเป็นเป้า "ทภ.2" ส่งมอบศพทหารเขมร บนภูมะเขือกลับปท.
"ศบ.ทก." แถลงชัดจุดยืนไทย เจรจาหยุดยิง "กัมพูชา" ต้องจริงใจเป็นที่ประจักษ์ก่อน ไล่ไทม์ไลน์เขมรเสริมกำลังไม่หยุด ใช้ปืนใหญ่ จรวด BM-21 ถล่มไทยต่อเนื่อง ย้ำผลขัดแย้งเกิดจากรัฐบาล "ฮุน มาเนต" ล้วนๆ
อำเภอบางละมุง ขยายผลวันเดียว รวบเอเยนต์ วัย 24 ปี น้ำตาตกผันตัวพ่อค้าหม่าล่าค้ายาให้เด็กบาร์โฮสหวังจะได้รวยเร็วๆ
จันทบุรี แรงกัมพูชาแห่กลับบ้านกว่าหมื่นคนหวั่นถูกทำร้าย จากกระแสโซเชียล กรณีคนไทยบางกลุ่มตระเวนทำร้ายคนกัมพูชา
สระแก้ว คัดแยกคนไทยไม่มีเอกสารที่มาจากฝั่งกัมพูชา นำเข้าสู่กระบวนการคัดแยก หากไม่มีคดีจะปล่อยกลับบ้าน
"ภูมิธรรม" แจงคุย "ทรัมป์" ยันหารือกองทัพบกด้วย ยันไม่กังวลถูกบีบด้วยเงื่อนไขภาษีการค้า ย้ำถ้าเจรจากัมพูชาต้องจริงใจ ย้ายทหาร-อาวุธออกพื้นที่ก่อน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​