“ทนายวิญญัติ” แขวะแพทยสภาอาจมีอคติ เบิกความคดีชั้น 14 โต้ถ้าเป็นญาติป่วยต้องรออาการวิกฤตหรือไม่ – Top News รายงาน
วันที่ 25 ก.ค.68 ที่ศาลฎีกา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้นว่าวันนี้ในฐานะทนายความก็มาฟังการไต่สวนพยานในกลุ่มแพทยทสภา เดิม ทราบว่ามีพยาน 6 ปาก แต่ศาลพิจารณาเห็นควรไต่สวนเพียง 3 ปาก เป็นอาจารย์แพทย์ ซึ่งในฐานะทนายก่อนที่จะมาฟังวันนี้ก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลายอย่างเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของแพทยสภา กังวลว่าหากแพทยสภามีอคติทางการเมืองหรือนำความเห็นทางการเมืองมาเกี่ยวข้องกับการเบิกความ เชื่อว่าศักดิ์ศรีของแพทยสภาจะลดน้อยลง หรืออาจไม่หลงเหลือ แต่ทั้งนี้ได้พยายามถามพยานทั้งสามปากที่มาเบิกความว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการลงมติลงโทษแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่ทำการรักษานายทักษิณ หรือไม่ โดยมีพยาน 1 ปาก ปฏิเสธตอบคำถาม แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดีเป็นกระบวนการของแพทยสภา ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่ถูกกล่าวหาก็สามารถใช้สิทธิต่อสู้คดีทางศาลปกครองได้อยู่แล้ว
ส่วนการเบิกความของพยานในวันนี้โดยรวมเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่เป็นที่สงสัยของประชาชนทั้งประเทศ ที่สนใจคดีนี้คือการให้ของแพทยสภาที่ยอมรับว่ามีอาการป่วยจริง มีอาการหลายโรคที่ปรากฏและมีข้อบ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นโรคเรื้อรังและโรคที่เกิดภาวะเฉียบพลัน ส่วนโรคที่มีภาวะเฉียบพลันถูกส่งไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 ต่อเนื่องวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ในฐานะทนายจึงพยายามถามถึงมาตรฐานการตรวจและวินิจฉัยโรคของแพทย์ ซึ่งเบิกความตรงกันว่าจะต้องตรวจให้ครบถ้วนว่าอาการเฉียบพลันหรืออาการกำเริบของโรคมีจริงหรือไม่ ซึ่งมีความจำเป็นต้องแอดมิดที่โรงพยาบาล