“เจ้าสัวธนินท์” ชี้ศักยภาพไทย เป็นศูนย์กลางการค้า-การผลิต แนะต่อยอดพัฒนา สร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ร่วมจีน สร้างชาติมั่งคั่งยั่งยืน

"เจ้าสัวธนินท์" ชี้ศักยภาพไทย เป็นศูนย์กลางการค้า-การผลิต แนะต่อยอดพัฒนา สร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ร่วมจีน สร้างชาติมั่งคั่งยั่งยืน

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยในงาน Exclusive Dinner Talk ไทย-จีน THE GOLDEN ROAD FROM NOW TO ETERNITY หัวข้อ 50 ปี ไทย-จีน The Golden Road : From Now to Eternity ว่า ถ้าประเทศไทยไม่ศึกษาอย่างลึกซึ้งว่าประเทศจีนต้องการอะไร และประเทศไทยเองมีอะไรที่สามารถผลิตได้เพื่อส่งไปยังประเทศจีน ไทยเราก็จะแพ้ และแพ้เพราะเราไม่เตรียมตัวเองให้พร้อม เพราะถ้าไทยแพ้ ไทยก็ต้องไปศึกษาลึกๆว่า มีอะไรบ้างที่ ผิดจากเมืองไทยส่งให้กับทางจีน หรือไทยเรานั้นลืมผู้ผลิตในโลกนี้ หรือ จากจีนในเมืองไทย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายธนินท์ กล่าวว่า อีกทางหนึ่งคือ ไทยสามารถดึงนักประดิษฐ์จากทั่วโลก รวมทั้งจากจีน มาร่วมพัฒนานวัตกรรมในประเทศไทย จากนั้นส่งออกกลับไปยังจีนหรือทั่วโลก โดยการร่วมทุนในลักษณะ win-win ให้บริษัทจีนกลายเป็นบริษัทไทย หรือจดทะเบียนในไทยเช่นเดียวกับโมเดลของสหรัฐอเมริกา

นายธนินท์ กล่าวต่อว่า คนเก่งจากทั่วโลกสามารถมาสร้างบริษัทในอเมริกา และกลายเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นเชื้อชาติเดียวกัน เชื่อว่าหากเราไม่ปิดกั้น คนเก่งเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจ สร้างงาน และสร้างรายได้ให้ประเทศ ดังนั้น ประเทศไทยไม่ควรเป็นเพียงศูนย์กลางด้านการค้าและการท่องเที่ยว แต่ควรเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตด้วย หากเรารู้ว่าปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยี และประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในอาเซียน ผู้ที่มาอยู่ในเมืองไทยต่างติดใจและไม่อยากกลับประเทศ

 

 

นายธนินท์ กล่าวต่อว่า ไทยไม่ได้เป็นศูนย์กลางการค้าเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางการผลิตด้วย เพราะฝีมือของคนไทย มีความทุ่มเท ขยัน รับผิดชอบ มีวินัย ทำให้เราจะเป็นศูนย์การผลิตด้วย ซึ่งไทยต้องกล้าคิดและกล้าทำ ถ้าเราทำงานร่วมกับจีนในลักษณะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ซื้อขายทั่วไป ไทยจะสามารถต่อยอดความร่วมมือไปได้อีกยาวนาน และควรเชิญบริษัทเทคโนโลยีของจีนมาร่วมลงทุนในไทย สร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยให้เกิดความร่วมมือแบบ win-win ซึ่งเชื่อมั่นว่า ถ้าทำได้ ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่พัฒนาได้เร็วที่สุดในอาเซียน

 

นายธนินท์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เหลือจากนี้คือ ประเทศไทยต้องศึกษาว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และอเมริกาที่เริ่มมาลงทุนด้าน AI และทรัพย์สินทางปัญญาในไทยแล้ว หากไทยและจีนจับมือกันอย่างจริงจัง เชื่อว่าความร่วมมือจะต่อยอดไปได้อีกไม่รู้จบ ทั้งสองประเทศจะเติบโตและมั่งคั่งไปด้วยกัน และหวังว่าไทยกับจีนความสัมพันธ์ 50 ปี จะต่อยอดเป็นล้านปี ถ้าผู้นำต่อๆ ไปของไทยเห็นว่าจะทำอะไร จะช่วยให้ไทยกับจีนจับมือรวยไปด้วยกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มเมียนมาหนีเข้าเมือง เพื่อนทิ้งกลางดึก ตร.คุมตัวดำเนินคดี
วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา เข้ารับการประเมิน “หน่วยองค์การมาตรฐานดีเด่น” ประจำปี 2568
ตชด.ชุมพร จับกำนันคนดังข้อหานำพาต่างด้าวข้ามชายแดนไทย-เมียนมาฝั่งชุมพร
ผู้ว่านครฯ สั่งบูรณาการเร่งแก้ผักตบ–ขุดลอกแหล่งน้ำ รับมือฤดูฝน
ประชาชน-นทท.ยังนิยมกระทงที่ทำจากใบตอง เลือกซื้อกระทง ขอขมาพระแม่คงคา
“คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา จัดค่ายเวทีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ครั้งที่ 21 ปลุกพลังเยาวชนก้าวสู่อนาคตวิทยาศาสตร์ไทย”

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​