“กองทัพไทย​” ออกแถลงการณ์​ 4​ ข้อ ฟ้อง​ 10​ องค์กรนานาชาติ​ ประณาม​ “กัมพูชา” ปมวางกับระเบิดสังหารบุคคล​

"กองทัพไทย​" ออกแถลงการณ์​ 4​ ข้อ ฟ้อง​ 10​ องค์กรนานาชาติ​ ประณาม​ "กัมพูชา" ปมวางกับระเบิดสังหารบุคคล​

วันนี้​ (21​ ก.ค.68)​ เวลา​ 22.00 น.​ เพจเฟซบุ๊ก​ “กองบัญชาการกองทัพไทย” เปิดเผยว่า​ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ซึ่งส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดยหนึ่งในนั้นถึงขั้นพิการถาวร

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย TMAC ได้ส่งแถลงการณ์ดังกล่าวเพื่อแจ้งข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับ 10 หน่วยงาน/องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายด้านการปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ได้แก่ เอกอัครราชทูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทย, เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย, เอกอัครราชทูตอาร์เซอร์ไบจานประจำประเทศไทย, โครงการวิจัยและพัฒนาการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (The Humanitarian Demining Research and Development: HD R&D), กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (U.S. Marine Corps Forces, Pacific: MARFORPAC), ศูนย์ระหว่างประเทศเพื่อการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมแห่งนครเจนีวา (The Geneva International Center for Humanitarian Demining: GICHD), คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (Joint United States Military Advisory Group Thailand: JUSMAG THAI), มูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมโกลเด้นเวสท์ (Golden West Humanitarian Foundation: GWHF), ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Mine Action Center: ARMAC) และ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา โดยแถลงการณ์ของ TMAC มีเนื้อหาสรุปได้ดังนี้

1. ประณามการลอบวางทุ่นระเบิด​ TMAC แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเป็นการลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในเขตแดนของประเทศไทย ซึ่งทุ่นระเบิดที่พบเป็นแบบใหม่ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคลังแสงของกองทัพไทย และมีเจตนาชัดเจนเพื่อสร้างอันตรายต่อกำลังพล เจ้าหน้าที่ รวมถึงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง

2. ประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง และชี้ว่าเป็นการละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ การเก็บสะสม การผลิต และการถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคลฯ (อนุสัญญาออตตาวา) ซึ่งทั้งประเทศไทยและกัมพูชาต่างเป็นภาคีสมาชิกและมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างครบถ้วน

3. เรียกร้องให้ราชอาณาจักรกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ด้วยการดำเนินการสอบสวนอย่างครอบคลุม ใช้มาตรการทางกฎหมายต่อผู้เกี่ยวข้อง และดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

4. เรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวางปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงใจในการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมเพื่อการเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยเน้นย้ำว่าความร่วมมือนี้มีความสำคัญต่อการส่งเสริมความไว้วางใจ ความปลอดภัย และเสถียรภาพของประชาชนทั้งสองประเทศ

แถลงการณ์ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งต่อสาธารณชนและองค์กรพันธมิตร เพื่อเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการร่วมกันเพื่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ต่อไป

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทหารพรานนาวิกโยธิน สกัดจับกลุ่มคนไทยลักลอบเข้าเมือง
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เดินหน้าขยายผลนโยบาย NO Drugs NO Dealers
"เดชอิศม์" เปิดการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 38 ที่จังหวัดสงขลา
โต้เดือด "ภูมิใจไทย" งัดคลิปอดีต ย้อน “ทักษิณ” ใครแน่สนิท "ฮุนเซน" ลั่นเป็นพรรคเพื่อคนไทย ไม่ใช่เพื่อเขมร
สหรัฐจ่อเก็บ”ค่าธรรมเนียมความซื่อสัตย์วีซ่า” 250 เหรียญ
การเคหะแห่งชาติ บันทึกเทปโทรทัศน์ ถวายพระพรชัยมงคล "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​