กต.ออกแถลงการณ์ ประณามกัมพูชา ขั้นรุนแรงสุด ลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหาร ชี้ละเมิดอธิปไตย-อนุสัญญาออตตาวา

กต. ออกแถลงการณ์ ประณามการใช้ทุนระเบิดสังหารบุคคล ชี้เป็นการละเมิดอธิปไตย ย้ำหาทางแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี พร้อมพร้อมเรียกร้องให้ช่วยกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด ขอ ประชาชนมั่นใจในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

กต.ออกแถลงการณ์ ประณามกัมพูชา ขั้นรุนแรงสุด ลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหาร ชี้ละเมิดอธิปไตย-อนุสัญญาออตตาวา – Top News รายงาน

 

กต.

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวโดยระบุว่ากรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เกิดเหตุการณ์กำลังพลของไทยเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวน ในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดย 1 นายข้อเท้าซ้ายขาด ปัจจุบันทหารทุกนายอาการปลอดภัย และอยู่ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในก่อนหน้านี้ แต่ขอให้ทหารไทยทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับประเด็นเรื่องทุ่นระเบิดในพื้นที่กองทัพบก และกองทัพภาคที่สอง ได้แถลงไปเมื่อเมื่อวานนี้ 19 กรกฎาคม ภายหลังการตรวจสอบของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันว่า ทุ่นระเบิด 8 ลูกที่พบ เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ และไม่มีในการใช้งาน หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย ในขณะที่วันนี้ได้มีการประชุมฝ่ายเลขานุการของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ซึ่งเป็นการประชุมระดับปฏิบัติ เพื่อแลกเปลี่ยน และจัดเตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอแนวทางการดำเนินการในด้านต่าง ๆ ให้ที่ประชุม ศบ.ทก. ที่กำหนดประชุมในวันพรุ่งนี้พิจารณาต่อไป เรื่องนี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และมีกรอบการดำเนินการหลายกรอบ ฝ่ายไทยจะต้องพิจารณาให้รอบคอบถึงแนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป

กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการประท้วงการใช้ทุนระเบิดสังหารบุคคล ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติในดินแดนไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น

รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคง ว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าทุ่นระเบิดที่พบไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำสู่ข้อสรุปได้ว่าเป็นการวางระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

 

รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณี ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาจะดำเนินการตามกระบวนการใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชา ผ่านกลไกทวิภาคีต่าง ๆ ที่มีอยู่และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันภายในกรอบทวิภาคี

นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์มีความละเอียดอ่อน การสื่อสารในสังคม โดยเฉพาะในช่องทางสื่อสารสังคมออนไลน์ อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือสร้างความแตกแยกโดยไม่ตั้งใจ กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้สังคมเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจากทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายความมั่นคง เพื่อความสามัคคีกันของคนในชาติซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"น้องหมิว" บัณฑิตจิ๋ว ย้อนทรงจำจดหมายเปลี่ยนชีวิต รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง"
ครบรอบ 40 ปี “นิ่มลีสซิ่ง” จัดแคมเปญ “จ่ายดีมีโชค มอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ ซีซั่น 3”
ฉะเชิงเทรา จัดพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส นำคณะผู้นำเครือซีพี เข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ ลงนามแสดงความอาลัย “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
อาเซียนรับรองติมอร์ตะว้นออกเป็นสมาชิกชาติที่ 11
ผู้นำสหรัฐแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระพันปีหลวง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​