จากกรณีเมื่อวันที่ 17 กรกฏาคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง สั่งยกฟ้องคดีที่พลอากาสโทธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. กับพวก ยื่นฟ้อง นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ฐานละเลยไม่ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ปมนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กองทุน กทปส. จำนวน 600 ล้านบาท สนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2022 เหตุ บอร์ด กสทช.ไม่มีอำนาจสั่งกรรมการสอบวินัยนั้น
ล่าสุดวันนี้ ดร.รุจิระ บุนนาค อาจารย์พิเศษและนักวิชาการด้านกฎหมาย ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่าการมีเสียงข้างมากในที่ประชุม ไม่ได้แปลว่าใช้อำนาจได้เหนือกฎหมาย อีกทั้งคดีนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการตีความขอบเขตอำนาจขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะบทบาทระหว่าง “คณะกรรมการ” กับ “ประธาน” ซึ่งมีผลต่อกระบวนการแต่งตั้งบุคคลระดับสูง และการใช้ดุลพินิจในการบริหารองค์กรรัฐ ซึ่งสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในองค์กรอิสระอย่าง กสทช. อย่างชัดเจน ส่งผลให้สังคมเกิดวิกฤตศรัทธาองค์กรอิสระที่มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ แต่กลับเป็นองค์กรที่มีคดีพิพาทฟ้องร้องกันในหมู่กรรมการมากถึง 5 คดี จากประเด็นที่กรรมการเสียงแตกแยกเป็นกรรมการเสียงข้างมากและกรรมการเสียงข้างน้อย