วันที่ 17 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดี มีคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ นางภัทรสุภางค์ เฉลิมนนท์ (ผู้ร้อง) อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภากลุ่ม 2 กฎหมาย จ.นราธิวาส ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 1) จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4) กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย(ผู้ถูกร้องที่ 5) สมาชิกสังกัดพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 6 ถึงผู้ถูกร้องที่ 16) ร่วมกันวางแผนครอบงำกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยมิชอบไว้ตั้งแต่แรก เมื่อพบเห็นการกระทำที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกสมาชิกวุฒิสภามิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 2) มิได้สั่งการให้ดำเนินการใด ๆ ส่งผลให้สมาชิกวุฒิสภา 138 คน (ผู้ถูกร้องที่ 3) ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 113 และมาตรา 224
"ศาลรธน." ลงมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องอดีตผู้สมัคร ร้องเอาผิด กกต." จัดเลือกสว.ผิดกม. "กก.บห.-พรรคภูมิใจไทย" ฮั้วสรรหามิชอบ
ข่าวที่น่าสนใจ
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบผู้ร้องกล่าวอ้างว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เนื่องจากละเลยต่อหน้าที่โดยปล่อยให้ผู้ถูกร้องที่ 4 ถึงผู้ถูกร้องที่ 16 ร่วมกันกระทำการครอบงำกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาส่งผลให้ผู้ถูกร้องที่ 3 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 และมาตรา 224 ซึ่งการยื่นคำร้องตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 213 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 46 และมาตรา 47 แม้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทำให้ผู้ร้องมีสิทธิสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ หากผู้ร้องเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ ผู้ร้องอาจใช้สิทธิทางศาลอื่นได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรรคสาม
ส่วนกรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นโมฆะนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 กำหนดกระบวนการยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งไว้แล้วตามมาตรา 44 และมาตรา 64 เป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง